แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ท่องเที่ยว แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ท่องเที่ยว แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2558

สิ่งมหัศจรรย์ทั้งเจ็ด ของโลกยุคใหม่

มีหลายองค์กรในโลกยุคปัจจุบันต่างก็จัดทำบัญชี 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ขึ้น โดยมีเกณฑ์ในการคัดเลือกสถานที่ต่างๆ ต่างกันออกไป แต่สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้ชัดคือ จำนวนสิ่งมหัศจรรย์ที่ได้รับการคัดสรรมานี้มีความหลากหลายทางอารยธรรมมากกว่าการจัดทำบัญชีฯ ในโลกยุคกลาง ซึ่งนอกจากจะมีอารยธรรมกรีก โรมัน และอียิปต์แล้ว ก็ยังมีอารยธรรมอื่นๆ ด้วย อาทิเช่น อินเดีย จอร์แดน และกลุ่มประเทศอเมริกาใต้

สิ่งมหัศจรรย์ทั้งเจ็ด ของโลกยุคใหม่ (New 7 Wonder of the World)

ซึ่งการจัดทำบัญชีเหล่านี้ มีทั้งความเหมือนและความแตกต่างกันในบางรายการ อาทิเช่น บัญชีฯ ของสมาคมวิศกรโยธาแห่งอเมริกัน ที่เน้นสิ่งก่อสร้างทางวิศวกรรมในยุคปัจจุบัน หรือบัญชีฯ ที่จัดทำโดยหนังสือพิมพ์อเมริกา USA Today ร่วมกับรายการโทรทัศน์ Good Morning USA ที่คัดเลือกโดยผู้ทรงคุณวุฒิ แต่สำหรับบัญชีฯ ที่เป็นที่นิยมและรู้จักกันโดยทั่วไปได้แก่รายการสิ่งมหัศจรรย์ที่จัดทำโดยองค์กร New Wonders of the World ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่จัดทำขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 2001 - 2007 ซึ่งเราจะขอนำมาเสนอ ดังต่อไปนี้

รูปปั้นพระเยซูคริสต์ (Christ Redeemer)
รูปปั้นพระเยซูคริสต์ ความสูง 38 เมตร ที่มีความยิ่งใหญ่และสง่างาม บนยอดเขาโคคาวาโด (Cocavardo) ในเมืองริโอเดจาเนโร (Rio de Janero) ประเทศบราซิล เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1922 และใช้เวลาก่อสร้าง 9 ปี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และเป็นจุดชมวิวเมืองริโอเดจาเนโรที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง

กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China)
สิ่งมหัศจรรย์ที่ติดอันดับทั้งจากโลกยุคกลางและโลกยุคใหม่ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "กำแพงหมื่นลี้" สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้ (Qin Si Huang) เพื่อป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าทางเหนือ และมีการสร้างขยายต่อเติมมาถึงในสมัยราชวงศ์หมิง จากการสำรวจในปี ค.ศ. 2012 พบว่ากำแพงหลักและสาขาย่อยต่างๆ มีความยาวรวมกันเกือบ 22,000 กิโลเมตร โดยส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะนิยมไปเยี่ยมชมกำแพงเมืองจีนกันที่เมืองปักกิ่ง

เมืองโบราณมาชูปิกชู (Machu Picchu)
มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "เมืองสาปสูญแห่งอินคา" (The Lost City of The Incas) เป็นเมืองที่มีสิ่งปลูกสร้างกว่า 200 หลัง ตั้งอยู่ยอดเขาสูงในเขตคุสโค (Cusco) เมืองอูรูบัมบา (Urubamba) ประเทศเปรู สร้างโดยจักพรรดิปาชากูติ (Pachacuti) แห่งอาณาจักรอินคาในช่วงศตวรรษที่ 15 แต่ภายหลังจากที่สเปนเข้ามายึดครอง เมืองแห่งนี้จึงถูกปล่อยร้างทิ้งไว้กว่า 300 ปี และถูกค้นพบอีกครั้งโดยนักประวัติศาสตร์ชาวอเมริกัน ไฮแรม บิงแฮม (Hiram Bingham) ในปี ค.ศ. 1911

นครเพตรา (Petra)
เมืองโบราณที่สร้างโดยการเจาะและแกะสลักหินผาในหุบเขา ที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาปเดดซี (Dead Sea) และอ่าวอัคบา (Gulf of Aqaba) ในเขตเมืองมาอัน (Ma'an) ประเทศจอร์แดน คาดว่าสร้างขึ้นในราว 312 ปีก่อนคริสตกาล และเป็นเมืองหลวงของชาวนาบาเทียน (Nabataeans) สันนิษฐานว่านครแห่งนี้ถูกทิ้งร้างในปี ค.ศ. 106 จนกระทั่งถูกค้นพบอีกครั้งในปี ค.ศ. 1812 โดยโจฮันน์ ลุควิค เบิร์กฮาร์ท (Johann Ludwig Burckhardt) นักสำรวจชาวสวิตเซอร์แลนด์

พีระมิดแห่งเมืองชีเชนอิตซา (Chichen Itza)
เมืองโบราณของชาวมายา (Maya) ที่มีพื้นที่ครอบคลุมมากกว่า 5 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ในเขตเมืองทินัม (Tinum) ในคาบสมุทรยูคาทาน (Yucatan) ประเทศเม็กซิโก (Mexico) มีวิหารที่สร้างในลักษณะเป็นพีระมิด และมีแท่นบูชายัญสำหรับทำพิธีสังเวยเทพเจ้าอยู่ด้านบน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในราว 600 ปีก่อนคริสตกาล ต่อมาในราวปี ค.ศ. 1532 ชาวสเปนได้เข้ามายึดครองและถูกทิ้งร้างไปในที่สุด







สนามกีฬาโคลอสเซียม (Colosseum)
อีกหนึ่งผลงานการก่อสร้างที่ได้รับการจัดอันดับทั้งในรายการสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางและโลกยุคใหม่ เป็นสนามกีฬาขนาดมหึมาที่ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมของชาวโรมัน ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี สร้างขึ้นในราวคริสต์ศักราชที่ 70 สามารถจุผู้เข้าชมได้เป็นจำนวนหลายหมื่นคน สนามกีฬาแห่งนี้มีอายุยาวนานกว่า 2,000 ปี และยังเป็นต้นแบบของการออกแบบสนามกีฬามาจนถึงยุคปัจจุบันอีกด้วย

ทัชมาฮาล (Taj Mahal)
สุสานหินอ่อนสีขาวขนาดใหญ่ ที่เรียกได้ว่าเป็นอัญมณีแห่งศิลปะมุสลิมในประเทศอินเดีย ตั้งอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำยมุนา (Yamuna) ในเมืองอักรา (Agra) สร้างตามพระราชดำริของจักพรรดิ ชาห์ จาฮาน (Shah Jahan) ในปี ค.ศ. 1632 ใช้เวลาก่อสร้างกว่า 20 ปี เพื่อเป็นที่ฝังพระศพของพระมเหสีมุมทัช มาฮาล (Mumtaz Mahal) ต่อมาถึงช่วงปลายพระชนม์ชีพ จักรพรรดิ ชาห์ จาฮาน ถูกพระราชโอรสของพระองค์เองคุมขังเป็นเวลาหลายปีจนกระทั่งสิ้นพระชนม์ และพระศพของพระองค์ได้ถูกฝังอยู่เคียงข้างพระมเหสีในทัชมาฮาลนั่นเอง

บัดนี้ การเดินทางย้อนอดีตอารยธรรมโลกของเราได้ปิดฉากลงแล้ว ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามผลงานของเรา และพบกันใหม่ในการเดินทางครั้งหน้า

บทความจาก Skyscanner.co.th

วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ไปเที่ยวญี่ปุ่น ฟรีวีซ่า 15 วัน เขานับกันอย่างไร...

คำถามสุดฮิต สำหรับคนที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบไม่ขอวีซ่า แต่อยากอยู่ให้นานที่สุด ตามที่ญี่ปุ่นเค้ากำหนด นั่นคือ ไม่เกิน 15 วัน

ไปเที่ยวญี่ปุ่น ฟรีวีซ่า 15 วัน เขานับกันอย่างไร...


Q: ฟรีวีซ่า 15 วัน ในความหมายที่แท้จริงแล้ว นับอย่างไร?
A: หากคุณเดินทางเหยียบแผ่นดินญี่ปุ่นเมื่อไร วันแรกจะไม่ถูกนับ
ยกตัวอย่างเช่น คุณผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ณ​ สนามบินภายในประเทศญี่ปุ่น วันที่ 14 มิถุนายน เวลา 01.00 น. วันดังกล่าวก็จะไม่ถูกนับ นั่นหมายความว่าวีซ่าจะเริ่มนับจริงๆคือ วันที่ 15 มิถุนายน และนับต่อไปอีก 15 วัน กล่าวคือสามารถอยู่ได้ถึง 29 มิถุนายน เวลา 23.59 เท่านั้น

Q: หากอยู่เกิน 15 วัน จะเป็นอย่างไร
A: ทางเจ้าหน้าที่ ตม. จะถือเป็นการ Over Stay หรือพักอยู่เกินเวลา ซึ่งอาจมีการปรับ หรือพิจารณาโทษอื่นๆ ตามดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประเทศญี่ปุ่น

Q: หากต้องการไปท่องเที่ยว หรือพำนักเกิน 15 วันต้องทำอย่างไร?
A: สามารถติดต่อยื่นคำร้องได้ที่ ศูนย์ยื่นวีซ่าประเทศญี่ปุ่น อาคารวันแปซิฟิคเพลส ชั้น 9 ยูนิต 910 เลขที่ 140 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110

นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งปัญหาสำหรับนักเดินทาง(มือใหม่) ที่หลายคนอาจประสบพบเจอ นั่นคือ เวลาออกเดินทาง หากในตั๋วเครื่องบินระบุว่า เครื่องบินออกเวลา 00.30 น. ของวันที่ 6 มิถุนายน นั่นหมายความว่า คุณจะต้องไปถึงสนามบินในช่วง 21.00 - 22.00 น. ของวันที่ 5 มิถุนายน เพื่อทำการตรวจบัตรโดยสาร (เช็กอิน) และผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองตามขั้นตอน

ย้ำกันอีกครั้ง หลังเวลา 00.01 น. จะถูกนับเป็นวันใหม่ตามมาตรฐานเวลาสากล ฉะนั้นตั้งสติให้ดี อย่าหลงวัน อย่าไปผิดสนามบิน ขอให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ

อ้างอิงข้อมูลจาก http://pantip.com/topic/33731095

รวมสวนสนุก สวนน้ำ ที่มาเลเซีย

มาเลเซียเป็นประเทศหนึ่ง ที่มีสวนสนุกและสวนน้ำ ตอบโจทย์ทุกความต้องการได้เป็นอย่างดี มีการผสมผสานบรรยากาศธรรมชาติ แหล่งชอปปิงระดับพรีเมี่ยม เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบจุดเดียวคุ้ม ลองมาดูกันว่าสุดยอดสวนสนุกในมาเลเซียนั้นมีที่ไหนบ้าง


รวมสวนสนุก สวนน้ำ ที่มาเลเซีย

เลโก้แลนด์ (Legoland.com.my) เมืองนูซาจายา รัฐยะโฮร์
ร่วมค้นหาโลกแสนกว้าง ภายใต้เมืองจำลอง Miniland ที่รังสรรค์ตัวต่อเลโก้กว่า 30 ล้านชิ้นสร้างสถานที่สำคัญ ทั่วเอเชียขนาดย่อมมาไว้ที่นี่ที่เดียว สนุกกับรถไฟเหาะ Duplo Express ตะลุยลอยฟ้าทั่วสวนสนุกแบบเดี่ยวแบบกลุ่มได้อย่างจุใจ สร้างโมเดลเลโก้เฉพาะตน ณ Lego Academy ผจญภัยทะลุสี่มิติกับหอคอย Kids Power พร้อมบุกแดนมังกรพ่นไฟในนิยายแบบเว่อร์ๆ กับปราสาทผจญภัย Lego Kingdom หรือจะลองขับรถ เรือ เครื่องบิน กับเครื่องเล่นจำลองสุดมันส์ในทุกมุมของ Lego City ปิดท้ายความเหนื่อยล้าทั้งวันแบบฉ่ำๆ ไปกับ LegoLand Water Park แห่งแรกในเอเชียและใหญ่ที่สุดในบรรดาเลโก้แลนด์ทั่วโลกกับสไลด์เดอร์สแปลชกว่า 20 เครื่อง ตัวต่อเลโก้กว่า 70 แบบ บนสวนน้ำที่รับประกันความปลอดภัยระดับสากล

ซานริโอ ฮัลโหล คิตตี้ ทาวน์ (Playtime.com.my) เมืองนูซาจายา รัฐยะโฮร์
นับเป็นสวนสนุกธีมฮัลโหล คิตตี้แห่งแรกนอกประเทศญี่ปุ่นที่ขนขบวนความสนุกของคิตตี้รวมถึงหวานใจอย่างแดเนียลและผองเพื่อนอย่าง มิมมี่ แบดแบดมารุ มาสร้างสีสันกันแบบไม่อั้น ไม่ว่าจะเป็นการแสดงโชว์ดนตรีของคิตตี้แอนด์เดอะแก๊งค์ เยี่ยมชมฮัลโหล คิตตี้ เฮ้าส์สุดอลัง สนามเด็กเล่นที่ฟูฟ่องไปด้วยเครื่องเล่นหวานๆ พร้อมร่วมผจญภัยช่วยชีวิตคิตตี้และแดเนียลจากตัวร้ายคุโรมิที่ปราสาท Black Wonder เซลฟี่แบบเลิศเลอที่สวน Dream Garden ซานริโอ ฮัลโหล คิตตี้ ทาวน์เป็นหนึ่งในสวนสนุกของปุเตรี ฮาร์เบอร์ แฟมิลี่ ธีมปาร์คที่ยังมีรวมสวนสนุก LAT’s Place และ The Little Big Club ไว้อีกด้วย ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของตัวการ์ตูนเหล่านี้ถือว่ามาจุดเดียว เที่ยวสุดคุ้ม

ซันเวย์ ลากูน (Sunwaylagoon.com) เมืองเปตาลิง จายา รัฐสลังงอร์
ก้าวเท้าเข้ามาที่ซันเวย์ ลากูน ที่อยู่ห่างจากเมืองกัวลาลัมเปอร์เพียง 15 นาที คุณจะเสมือนหลุดเข้าไปในโลกแห่งแฟนตาซี และความสนุกสุดมันระดับโลก ความบันเทิง 360 องศาพรั่งพร้อมด้วยเครื่องเล่นกว่า 80 ชนิดทั่วสวนสนุกแห่งนี้ ประกอบไปด้วย สวนน้ำ สวนสนุก สวนสนุกเอ็กซ์ตรีม สวนสัตว์และสวนสยอง เรียกได้ว่าครบทุกแนวของผู้รักการผจญภัย ไฮไลท์เด็ด เช่น สัมผัสเกลียวคลื่นสุดมันบนชายหาดโต้คลื่นเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก กระโจนลงสู่ waterplex 5 มิติ นวัตกรรมเครื่องเล่นบนน้ำที่มีเซนซอร์เพิ่มอรรถรสแห่งเสียง นอกจากนี้ยังมีเรือสำราญพาเที่ยวชมบนทะเลสาบโดยรอบ ตลอดทางผ่านพบสัตว์ประหลาดโผล่ผุดให้ได้ใจหายใจคว่ำ นั่งเรือเหงื่อตกแล้วก็ไปลงเล่นน้ำที่มีน้ำตกเลียนแบบธรรมชาติ ใหญ่เท่าๆ น้ำตกไนแองการ่า ถาโถมด้วยคลื่นสูง 60 เมตร ก่อนจะไปทิ้งตัวลื่นไถลบนสไลเดอร์โค้ง 45 องศา สวนสนุกผจญภัยธีมคาวน์บอยตะวันตกก็มีให้ได้ระทึกไปกับสะพานแขวน ที่แกว่งไกวอยู่บนฟ้าความยาวกว่า 428 เมตร เหนือทะเลสาบกว้างใหญ่ไพศาล ในส่วนของการผจญภัยนอกอาคารจัดให้มีการขี่ม้าพยศเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกันเล่นๆ หรือจะลอง “สกาย ไฟล์เยอร์” (SKY FLYER) ที่มีลักษณะเสมือนเข็มนาฬิกายักษ์กวัดแกว่งโยกหน้าโยนหลังทำมุมกว้าง 360 องศา ก็ทำให้เลือดลมนักผจญภัยสูบฉีดได้เป็นอย่างดี

ซันเวย์ ลอสเวิร์ล ออฟ ตัมบูน (Sunwaylostworldoftambun.com) เมืองอีโปห์ รัฐเปรัก
ภายใต้ขุนเขาแห่งธรรมชาติ หนีจากความวุ่นวายสู่โลกแห่งความสนุกพร้อมสัมผัสประสบการณ์ผจญภัยเชิงอนุรักษ์แห่งแรกในมาเลเซีย สวนสนุกที่ซ่อนตัวท่ามกลางหุบเขาแสนงดงามอย่าง ซันเวย์ ลอสเวิร์ล ออฟ ตัมบูน ที่จะนำพาทุกท่านสนุกสนานกับสวนน้ำดำผุดดำว่ายใน Wave Pool สระเกลียวคลื่นที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย เกิดขึ้นจากการบรรจบของสองน้ำตกขนาดใหญ่สูงกว่า 20 ฟุต หรือร่อนลงบนผืนน้ำให้กระเซ็นสาดกับ Tube Raider สไลเดอร์สแปลชที่ยาวที่สุดในมาเลเซีย พร้อมชื่นฉ่ำไปกับโซนอาบน้ำผสานเสียงดนตรี ที่จะช่วยผ่อนคลายกายและใจอย่างสมดุล นอกจากครอบครัวแล้ว ที่นี่ยังเหมาะกับคู่รักที่อยากเปิดประสบการณ์หวานมัน ไม่ว่าจะเป็นการดินเนอร์ในถ้ำแสนงาม การทำสปาด้วยคริสตัล ให้อาหารเสือ โลดโผนกับกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่ให้ความรู้สึกเหมือนหนังอินเดียน่าโจนส์ พักผ่อนแบบโรแมนติกที่โรงแรมบูทิคแสนทันสมัย หรือกางเต็นท์รับแสงจันทร์ข้างทะเลสาบงามก็ย่อมได้

คิดซาเนีย (Kidzania.com.my) เมืองเปตาลิง จายา รัฐสลังงอร์
มาจุดไฟแห่งการเรียนรู้ของเด็กๆ ในบรรยากาศสนุกสนาน ได้สาระบวกประสบการณ์ ด้วยมาตรฐานระดับโลกในฐานะศูนย์ความบันเทิงเพื่อการเรียนรู้ของเยาวชนแนวใหม่ที่คิดซาเนีย เมืองสร้างสรรค์ของเด็กๆ นำเสนอกิจกรรมแสดงบทบาทเสมือนจริง ให้เด็กๆ ได้ฝึกความรู้ และทักษะด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ในโรงพยาบาล นายธนาคาร หัวหน้าดับเพลิง เจ้าของร้านเสริมสวย พิธีกรทีวี ผู้กำกับ หรือตัวแสดงโรงละครและหลากหลายบทบาทอาชีพกว่า 100 รายการ พร้อมประสบการณ์การเรียนรู้เสมือนจริงด้วยการใช้เงินสกุลคิดซาเนียในการดำรงชีวิต การฝึกเข้าคิว การเปิดบัญชีธนาคารคิดซาเนีย นวัตกรรมไฮเทคสุดล้ำเสริมสร้างจินตนาการให้เด็กๆ มีความสุขพร้อมเรียนรู้การเป็นผู้ใหญ่ในอนาคตได้อย่างมีหลักการ นอกจากนี้ยังมีเอาท์เลท ร้านอาหาร ร้านของที่ระลึกให้ชอป ชม ชิลล์กันแบบจุใจ

ช่วงนี้ใครกำลังปรารถนาความตื่นเต้นให้กับชีวิตหรือมองหาที่เที่ยวที่สนุกสนานกันได้ทั้งครอบครัว สวนสนุกเหล่านี้นับเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ

......................
หมายเหตุ :
1. แม้สวนสนุกและสวนน้ำแต่ละแห่งยินดีต้อนรับผู้เยี่ยมเยือนในทุกระดับอายุ แต่ละสวนสนุกอาจมีการกำหนดส่วนสูงและน้ำหนักขั้นต่ำสำหรับกิจกรรมบางประเภท
2. ข้อมูลทั้งหมดถูกต้อง ณ เวลาการตีพิมพ์จดหมายข่าวฉบับนี้
3. ผู้เยื่ยมเยือนควรติดต่อที่สวนสนุกแต่ละแห่งก่อนการเดินทางเพื่อข้อมูลข่าวสารอัพเดทเพิ่มเติม)


ที่มา Bangkokbiznews.com

วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

สุนทรีแลนด์ แดนตุ๊กตา


สำหรับคนที่เคยไปเกาหลี และชื่นชมพิพิธภัณฑ์เท็ดดี้แบร์ สุนทรีแลนด์ ...ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง ถึงจะไม่ได้อลังการงานสร้าง แต่ที่นี่ก็รวบรวมตุ๊กตาไว้นับร้อยๆ ตัว จัดแสดงภายใต้ธีมต่างๆ หลากหลายมากมาย โดยมีที่มาน่าสนใจคือเจ้าของ สุนทรี เอี่ยมหนู หลังจากทำโรงงานผลิตตุ๊กตามายาวนากว่า 30 ปี รู้สึกอยากให้คนได้สัมผัสและเห็นถึงฝีมือการทำตุ๊กตาของคนไทย จึงคิดนำเสนอตุ๊กตาเหล่านี้ในรูปแบบของสถานที่สันทนาการเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดราชบุรี

'สุนทรีแลนด์ แดนตุ๊กตา' แบ่งโซนจัดแสดงออกเป็นหลายส่วนทั้งในอาคารและกลางแจ้ง ที่ถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่เห็นจะเป็นโซนที่เต็มไปด้วยหมีตัวใหญ่ในอิริยาบทต่างๆ อาทิ หมีในชุดประจำชาติของประเทศอาเซียน หมีที่แสดงถึงวิถีวัฒนธรรมไทย นอกจากนี้เด็กๆ ยังได้ตื่นเต้นกับการหาทางออกจากเขาวงกต และโซนอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนใครที่ชอบความแปลกใหม่ อีกอาคารเป็นตุ๊กตาหน้าโหดหลากหลายแบบ ตกแต่งเป็นบรรยากาศยามราตรี แต่ไม่ต้องกังวล ไม่ได้น่ากลัวอะไร ดูได้เพลินๆ



จุดเด่นของสุนทรีแลนด์ นอกจากจะดูด้วยตา ถ่ายภาพกันได้แบบจุใจแล้ว ยังสามารถจับเล่นหรืออุ้มกอดได้ โดยตุ๊กตาเหล่านี้จะมีการนำไปทำความสะอาดตามระยะเวลาที่กำหนดและเปลี่ยนตัวใหม่มาให้เล่นแทน ส่วนใครที่อยากแปลงร่างเป็นตุ๊กตาที่ชื่นชอบสามารถเช่าชุดมาสคอตมาใส่ถ่ายภาพได้ หรือถ้าจะทดลองทำตุ๊กตา เขาก็มีห้องงานประดิษฐ์ให้คุณได้สร้างสรรค์ตุ๊กตาในแบบของตัวเอง เรียกว่าเป็นแหล่งศึกษาดูงานการทำตุ๊กตาที่ครบวงจรเลยทีเดียว

เดินชมจนพอใจ หากจะนั่งพักชิลล์ๆ ก็มีร้านกาแฟและร้านอาหารสไตล์น่ารักๆ ไม่หลุดคอนเซ็ปต์ไว้บริการ ส่วนใครอยากจะได้ตุ๊กตาตัวโปรดกลับไปเชยชมที่บ้านหรือซื้อเป็นของที่ระลึก สุนทรีแลนด์ก็มีร้านตุ๊กตาหลากหลายแบบจากโรงงานสุนทรีจำหน่ายด้วย

ใครอยากเที่ยวแบบย้อนวัย หรือพาเด็กๆ ไปเติมจินตนาการความสนุกสนาน สุนทรีแลนด์ รอคุณอยู่ที่อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี บริเวณกิโลเมตรที่ 84 เข้าซอยเทศบาลตำบลบ้านสิงห์ ตรงมา 4 กิโลเมตร อยู่ด้านซ้ายมือ แต่ถ้ามาจากนครปฐม วิ่งเส้นเพชรเกษม กิโลเมตรที่ 84 ด้านซ้ายจะเป็นโรงเรียนอนุบาลโพธาราม เลี้ยวซ้ายเข้ามาอีก 4 กิโลเมตร จะอยู่ซ้ายมือ เปิดบริการทุกวัน (หยุดวันพุธ) ตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น. อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 80 บาท และเด็ก 40 บาท (สอบถามโทร 08 2024 2888, 08 20217888, เว็บไซต์ : http://www.suntreelandofdolls.com, เฟสบุ๊ค : facebook.com/suntreeland)

เนื้อหาจาก http://www.bangkokbiznews.com/

วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

Dino Water Park สวนน้ำแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน

'ไดโน วอเตอร์ พาร์ค' สวนน้ำขนาดใหญ่ ด้วยพื้นที่กว่า 30 ไร พร้อมด้วยเครื่องเล่นสนุกๆ มากมาย ในธีมที่ตกแต่งแบบจูราสิคปาร์ค ยุคไดโนเสาร์ ไฮไลท์ของสวนน้ำไดโนวอเตอร์พาร์ค คือ ทะเลเทียม พร้อมหาดทรายสีขาว พิเศษสุดๆ คือ มีเวทีคอนเสิร์ตกลางน้ำ ที่รอเสิร์ฟความสนุกแบบจัดเต็ม ให้กับผู้ไปเยือนทุกเมื่อ

Dino Water Park สวนน้ำแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน


Windigo
เครื่องเล่นที่มีความน่าตื่นเต้นสุดมันส์ มีสไลด์เดอร์ทั้งหมด 6 เลน ผู้เล่นจะใช้แผ่นยางสไลด์ตัวลงมาจากความสูง 18 เมตรผ่านลู่ที่มีความสลับซับซ้อน ด้วยความเร็วมากๆ หวาดเสียวสุดๆไปเลย

Family Rafting
ผู้เล่นจะได้พบกับความสุขและความตื่นเต้นราวกับไปล่องแพกันทั้งครอบครัว โดยเราจะมีเบาะยาง อย่างดีที่นั่งได้ 4 คนสไลด์ตามลู่ลงมาด้วยความเร็วที่ต่างระดับกัน

Space Boat
ถูกออกแบบมาให้คุณได้สนุกตื่นเต้นกับการสไลด์เบาะยางที่นั่งได้ 2 คน ผ่านลงมาสู่อ่างขนาดใหญ่ที่มีท่ออยู่ตรงกลาง คุณจะตื่นเต้นมากขึ้นเมื่อถูกดูดลงไป แล้วสไลด์ออกมาอย่างสุดเหวี่ยง

Kamikaze
จะพาผู้เล่นสไลด์ตัวลงไปตามลู่ที่ความสูง 18 เมตร ด้วยความเร็วต่อเนื่อง ผู้เล่นจะพบกับความตื่นเต้นแบบสุดๆ จะไม่อยาก หยุดกันเลยทีเดียว

Looping Rocket
คือจรวดที่พร้อมจะปล่อยตัวผู้เล่นไปสู่ความสนุก ตื่นเต้น Looping rocket จะปล่อยตัวผู้เล่นในแนวดิ่งลงไปตามลู่ด้วยความเร็วสูง แล้วผู้เล่นจะทะยานบินออกมา อย่างสุดมันส์

Magicone

เป็นสไลด์เดอร์ที่มีความจุสูงเป็นพิเศษ ผู้เล่นสามารถร่วมเล่นพร้อมกันได้ เมื่อสไลด์ลงมาจากจุดสตาร์ทผู้เล่นจะสนุกเต็มที่กับอุโมงขนาดใหญ่ ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความตื่นเต้น

Turbolance

เมื่อผู้เล่นปล่อยตัวเองจากจุดสตาร์ทด้วยห่วงยางสไลด์ลงมาด้วยความเร็วสูง ผู้เล่นจะพุ่งขึ้นไปยังแผ่นสไลด์ขนาดใหญ่สูง 18 เมตรและสไลด์กลับลงมาในอีกลู่หนึ่ง ผู้เล่นจะรู้สึกตื่นเต้นราวกับนั่งรถไฟเหาะ

Space Shuttle
ผู้เล่นจะสไลด์ด้วยห่วงยางไปตามลู่จากจุดสตาร์ท และจะถูกส่งเข้าไปพักในแท็งก์ขนาดใหญ่ ก่อนที่จะถูกส่งเข้าไปในลู่ และแท็งก์อีก 2 ที่

Uphill Navigatour
ผู้เล่นจะสไลด์ด้วยห่วงยางไปตามลู่จากจุดสตาร์ท และจะถูกส่งเข้าไปพักในแท็งก์ขนาดใหญ่ ก่อนที่จะถูกส่งเข้าไปในลู่ และแท็งก์อีก 2 ที่

Space Hole
คือหนึ่งในสไลด์เดอร์ที่ใหญ่ที่สุด คุณจะพบความตื่นเต้นหลายระดับ อันดับแรกเมื่อผู้เล่นสไลด์ตัวผ่านลู่ผู้เล่นจะถูกเหวี่ยงลงไปในชามใบใหญ่ หมุนไปรอบๆชาม และในที่สุดผู้เล่นก็จะตกลงไปในก้นชามที่ถูกเจาะรูเอาไว้

Wave Pool
สระน้ำขนาดใหญ่ ที่มีคลื่นน้ำจำลองราวกับทะเลจริงๆ และยังจัดตั้งเวทีกลางขนาดใหญ่ในสระ นอกจากนักท่องเที่ยวจะสนุกสนานกับเครื่องเล่นต่างๆแล้ว ยังได้รับความบันเทิงกับการแสดงต่างๆบนเวทีอีกด้วย

Lazy River
ซึ่งเป็นระบบน้ำวนรอบสวนน้ำให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลิน นั่งห่วงยางลอยไปรอบๆ ภายในสวนน้ำ ใกล้ชิดสนุกสนานกับครอบครัวได้ต่อเนื่อง

Aqua Tower
คือพื้นที่สระน้ำขนาดใหญ่ เป็นโซนสไลด์เดอร์และเครื่องเล่นที่มีความปลอดภัยที่สุด เครื่องเล่นจะเหมาะกับเด็กๆ เพราะบริเวณรอบๆนั้นน้ำจะไม่ลึกมาก ปลอดภัยกับเด็กๆ ได้สนุกสนานกันตลอดทั้งวัน

Dancing Fountain
มีน้ำพุดนตรีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 เมตร เต้นระบำตามจังหวะของเพลง สร้างสีสันความสนุกเฮฮาพร้อมเสียงเพลงและสายน้ำที่ผุดขึ้นมาเริงร่าเต้นระบำเป็นจังหวะ

เว็บไซต์ : www.dinowaterpark.com
เฟซบุ๊ก : www.facebook.com/dinowaterparkkhonkaen

ข่าวจาก http://webboard.yenta4.com/topic/570825

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ปลั๊กไฟของประเทศต่างๆ รู้ไว้ก่อนไปเที่ยว


ปลั๊กไฟของประเทศต่างๆ รู้ไว้ก่อนไปเที่ยว

Type A: USA, Canada, Mexico and Japan
Type B: A grounded version of Type A
Type C: Europe, South America and Asia
Type D: India
Type E: France, Belgium, Poland, Slovakia and the Czech Republic
Type F: Europe and Russia, except for the UK & Ireland (Types C,E and F are all cross-compatible)
Type G: United Kingdom, Ireland, Malta, Malaysia and Singapore
Type H: Israel, the West Bank and the Gaza Strip
Type I: Australia, New Zealand, China and Argentina
Type J: Switzerland, Liechtenstein and Rwanda
Type K: Denmark and Greenland
Type L: Italy and Chile
Type M: South Africa
Type N: Brazil
Type O: Thailand

วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เที่ยวเกียวโต ปราสาท พิพิธภัณฑ์ และอื่นๆ

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว เกี่ยวกับปราสาทและพิพิธภัณฑ์ แหล่งช้อปปิ้ง ตลาด สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและบันเทิง สวนและสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติใกล้ๆ เมือง ที่เกียวโต ญี่ปุ่น


ภาพจาก www.jackmanescapades.net

ปราสาทและพิพิธภัณฑ์
ปราสาทนิโจ (Nijo Castle)
ปราสาทเก่าที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1603 เป็นด่านปราการป้องกันตัวพระราชวังนิโนมารุ (Ninomaru Palace) และพระราชวังฮอนมารุ (Honmaru Palace) ในชั้นใน ขึ้นชื่อเรื่องสวนญี่ปุ่นขนาดใหญ่อันสวยงามตระการตา และงานสถาปัตยกรรมภายใน

พระราชวังหลวงแห่งนครเกียวโต (Kyoto Imperial Palace)
พระราชวังแห่งนี้ถูกบูรณะขึ้นใหม่เมื่อราว 50 ปีก่อน เนื่องจากตัวพระราชวังเดิมถูกทำลายลงไปมากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

พิพิธภัณฑ์ศิลปะโฮโซมิ (Hosomi)
จัดแสดงงานพุทธศิลป์และเฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้านโบราณ รวมไปถึงอุปกรณ์ชงชาอันลือชื่อ

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเกียวโต (Tokyo National Musuem)
จัดแสดงงานศิลปะต่างๆ และทรัพย์สมบัติของชาติตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน โดยมีการหมุนเวียนการจัดแสดงไปเรื่อยๆ

แหล่งช้อปปิ้ง ตลาด สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและบันเทิง
สถานที่เที่ยวยามค่ำคืน กิออน (Gion District)
ย่านเกอิชาโบราณ ในช่วงเวลาเย็นจะเป็นแหล่งที่รวบรวมศิลปะการแสดงทุกแขนงที่ดีที่สุดของเกียวโตไว้ในที่เดียว ทั้งหุ่นละครมือ การแสดงรำของเกอิชา การร้องเพลง ละครตลก การจัดดอกไม้ ฯลฯ

ถนนฮานามิ-โคจิ (Hanami-koji Street)
ขึ้นชื่อว่าเป็นสีสันแห่งเกียวโต ถนนหลักของย่านกิออนที่จะไปสุดสายที่วัดเคนนิจิ สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านกินดื่ม โรงน้ำชา และร้านค้าของที่ระลึกที่ยังอยู่ในลักษณะบ้านเรือนแบบเก่า เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งที่พลาดไม่ได้

ย่านทอผ้านิชิจิน (Nishjin)
แหล่งผ้าทอในบรรยากาศบ้านโบราณอายุกว่า 100 ปี

แหล่งช้อปปิ้งชิโจ (Shijo-Dori)
เป็นเขตห้างสรรพสินค้าและร้านค้ามากมาย มีสินค้าหลากหลายตั้งแต่เครื่องไฟฟ้า เสื้อผ้าแฟชั่นไปจนถึงของที่ระลึก

ตรอกปอนโตโช (Pontocho)
ตรอกยาวขนานแม่น้ำคาโมะ (Kamo River) ถนนสายเกอิชาและสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืนประจำเมืองมาแต่อดีต

ถนนสายกาน้ำชาและวัฒนธรรมฮิกาชิยามะ (Higashiyama-historic district)
แต่เดิมเคยเป็นแหล่งเครื่องปั้นดินเผา ตั้งอยู่ใกล้กับวัดน้ำใส ปัจจุบันเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าที่ระลึกและขนมพื้นเมือง บ้านเรือนในแถบนี้ยังเป็นลักษณะแบบเก่า มากไปกว่านั้นหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นก็นิยมแต่งชุดกิโมโนมาเดินบนถนนเส้นนี้ด้วย

ตลาดอาหารนิชิกิ (Nishiki Market-fresh food market)
ตลาดนัดอาหารสดขนาดใหญ่ที่มีทั้งอาหารและขนมพื้นเมืองให้เลือกมากมาย เป็นตลาดเก่าอายุกว่า 400 ปี เจ้าของฉายา “ห้องครัวแห่งเกียวโต”

สวนและสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติใกล้ๆ เมือง
ทางเดินนักปราชญ์ (The Philosopher’s Path)
เป็นเส้นทางเดินเท้ากว่า 2 กิโลเมตรเชื่อมต่อระหว่างวัดเงินและวัดนันเซนจิ ทางเดินแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นซากุระนับร้อยต้น ซึ่งจะบานในช่วงเดือนเมษายน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงเทศกาลชมดอกซากุระ เทศกาลฮานามิ (Hanami)

อะราชิยาม่า (Arashiyama)
เมืองเล็กๆ ชานเมืองเกียวโต มีธรรมชาติสวยงามขึ้นชื่อเรื่องเส้นทางรถไฟอันแสนโรแมนติก

บ่อน้ำร้อนฟูนาโอกะ (Funaoka Onsen)
บ่อน้ำพุร้อนและสปาแบบญี่ปุ่นที่เป็นลักษณะบ่อน้ำกลางแจ้งมีบ่อสมุนไพรและการบำบัดต่างๆ

เที่ยวเกียวโต เมืองมรดกโลก เมืองแห่งวัดและศาลเจ้า

รวบรวมสถานที่น่าไปเยือนของ “เมืองเกียวโต” กรุงเก่าแห่งญี่ปุ่น แดนอาทิตย์อุทัยมาฝาก หากใครคิดจะแบกเป้ฉายเดี่ยวไปเที่ยวเมืองซามูไรคราวนี้ด้วยตนเอง เรามีรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวดีๆ ที่คุณไปเองก็ได้ไม่ต้องพึ่งไกด์ทัวร์

เมืองเกียวโต (Kyoto) เป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่นในอดีต ตั้งอยู่ในภูมิภาคตะวันตกหรือ “คันไซ” บนเกาะฮนชู เมืองเกียวโตมีเอกลักษณ์โดดเด่นที่บ้านเมืองแบบเก่าและเป็นแหล่งรวมศิลปวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมของญี่ปุ่นโบราณ

ฤดูกาลท่องเที่ยว เกียวโตสามารถเที่ยวได้ทั้งปี เพราะนอกจากจะได้ชมธรรมชาติสวยงามในฤดูกาลต่างๆ แล้ว เกียวโตยังมีเทศกาลและงานท้องถิ่นมากมายตลอดปีที่น่าสนใจไม่น้อย อีกทั้งที่เที่ยวแนวประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองนี้ก็สามารถมาเยือนได้ตลอดปีอีกด้วย


วัดนินนาจิ (Ninna-ji Temple)
Ninna-ji, Kyoto, Japan
ที่ตั้ง
วัดมรดกโลก วัดแห่งศาสนาพุทธขนาดใหญ่ ก่อสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 886 เป็นวัดที่จักรพรรดิยูดะ (Emperror Uda) เคยมาผนวช เป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธลัทธิโอมูระ ชินกอน (Omura Shingon) วัดนี้เคยถูกเผาทำลายในช่วงสงครามโอนิน (Onin War) และได้รับการบูรณะใหม่ราว 150 ปีที่ผ่านมา สิ่งก่อสร้างดั้งเดิมที่ยังคงอยู่ถึงปัจจุบัน คือ เจดีย์ 5 ชั้น ลวดลายบนกำแพงวัด และสวนเชอรี่แคระ นอกจากนั้นวัดแห่งนี้ก็ยังเคยเป็นพระราชวังเก่าในอดีตอีกด้วย

วัดคิโยมิสึ (Kiyomizudera Temple) หรือวัดน้ำใส
Kiyomizudera, Kyoto, Japan
ที่ตั้ง
รู้จักกันในนามวัดน้ำใส เพราะเป็นทางผ่านของทางน้ำแห่งน้ำตกโอโตวา (Otowa Waterfall) ซึ่งเชื่อว่าเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ และภายในวัดก็มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่รองรับน้ำจากน้ำตกไว้ให้ผู้มีจิตศรัทธาได้มาตักดื่มเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต วัดแห่งนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ราวปี ค.ศ. 798 และได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1633 วัดแห่งนี้มีจุดเด่นเรื่องสิ่งก่อสร้างระเบียงไม้ขนาดใหญ่โตสวยงามโอ่อ่าในเขตวิหารหลัก ที่ก่อสร้างโดยมิได้ใช้ตะปูสักตัวเดียวจนทำให้วิหารและระเบียงแห่งนี้ได้ขึ้นเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1994 นอกจากนั้นในบริเวณสวนของวัดยังมีต้นซากุระกว่าพันต้น เป็นจุดชมซากุระบานยอดนิยมอีกแห่งหนึ่ง

ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine)
Fushimi Inari Shrine, Tokyo, Japan
ที่ตั้ง
ศาลเจ้ายอดนิยมอีกแห่งที่สร้างขึ้นโดยชาวนาท้องถิ่นเพื่อถวายเทพเจ้าจิ้งจอก (เทพเจ้าแห่งธัญพืช) ในราวปีค.ศ. 711 และยังเป็นที่พำนักของพระแม่โพสพตามความเชื่อท้องถิ่นที่ช่วยให้การเกษตรของเมืองอุดมสมบูรณ์ จุดเด่นของศาลเจ้าแห่งนี้ คือ แนวประตูไม้โทริอิสีแดงที่เรียงรายนับพันต้น ซึ่งนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าหากได้มากราบไหว้ขอพรและสร้างเสาแนวประตูถวายจะช่วยให้กิจการสำเร็จสมหวัง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีแนวประตูยาวไปถึงยอดเขาร่วม 4 กิโลเมตร แนวประตูโทริอินี้ถือเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมอีกแห่งของเกียวโตเลยทีเดียว

วัดซันจูซันเก็นโดะ (Sanjusangendo Temple)
Sanjusangendo, Kyoto, Japan
ที่ตั้ง
วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1164 โด่งดังเรื่องรูปแกะสลักขนาดเท่าคนจริงของแม่พระโพธิสัตว์กวนอิมที่แกะสลักจากไม้ฉาบทองในปางต่างๆ เป็นจำนวน 1,001 ปาง (องค์) ประดิษฐานในวิหารยาวกว่า 120 เมตร เชื่อกันว่าเป็นงานศิลปะในศตวรรษที่ 12 และวิหารไม้แห่งนี้ถือเป็นวิหารไม้ที่ยาวที่สุดของประเทศญี่ปุ่น นอกจากนั้นพระประธานในวิหารแห่งนี้ยังเป็นงานแกะสลักรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมพันกรโดยช่างฝีมือโบราณชื่อดัง ตันเกอิ (Tankei) ในปี ค.ศ. 1264 และบริเวณด้านหน้ายังมีงานแกะสลักเทพเจ้าต่างๆ ในศาสนาฮินดู 28 องค์ และเทพเจ้าตามความเชื่อของญี่ปุ่นอีก 2 องค์ โดยงานแกะสลักทั้งหมดนี้เป็นศิลปะสมัยคามาคุระ (Kamakura) หรือราวศตวรรษที่ 12-13

วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji) หรือวัดทอง
Kinkakuji, Kyoto, Japan
ที่ตั้ง
วัดประจำนิกายเซนชื่อดังประจำเมืองอีกแห่งที่มีศาลาที่ตกแต่งด้วยแผ่นทองคำบริสุทธิ์ตั้งอยู่กลางสระน้ำในสวนสวย เป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเมืองเกียวโต เคยเป็นที่ประทับของโชกุนอะชิกะงะ โยชิมิตสึ (Ashikaga Yoshimitsu) ในปี ค.ศ.1397 วัดแห่งนี้คนไทยเรารู้จักกันอย่างกว้างขวางเพราะเคยกล่าวถึงในการ์ตูนเณรน้อยเจ้าปัญญา “อิกคิวซัง” ที่มักมาเล่นทายปริศนากับท่านโชกุนโยชิมิตซึ เดิมทีวัดแห่งนี้เป็นบ้านพักตากอากาศของรัฐบุรุษไซออนจิ คิซึเนะ (Sionji Kitsune) และโชกุนโยชิมิตซึได้ขอซื้อเพื่อเป็นที่ประทับ และได้รับการเปลี่ยนเป็นวัดหลังจากพระองค์สวรรคตไปแล้ว

วัดและศาลเจ้า
วัดเรียวอันจิ (Ryoanji)
ขึ้นชื่อเรื่องสวนหินอันสวยงามแปลกตาที่สร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 15

วัดเท็นริวจิ (Tenryuji Temple)
วัดนิกายเซนแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่น เป็นวัดมรดกโลก ขึ้นชื่อเรื่องสวนญี่ปุ่นสวยงาม

วัดโฮโกนิน (Hogonin Temple)
วัดเก่าแต่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1461 ในยุคเอโดะ ตั้งอยู่ภายในเขตของวัดเท็นริวจิ ขึ้นชื่อเรื่องสวนต้นเมเปิลขนาดกว้างใหญ่ ซึ่งสามารถเข้าชมสวนได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและช่วงฤดูใบไม้ร่วง ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคมถึง 30 มิถุนายน

วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji) หรือวัดเงิน

เป็นวัดคู่กับวัดคินคะคุจิ

วัดโคอินซาน ไซโฮจิ (Koinzan Saiho-ji) หรือวัดสวนมอส
วัดที่ปกคลุมไปด้วยมอสพันธุ์ต่างๆ มากกว่า 120 ชนิด ซึ่งเหมาะแก่การมาเยือนในช่วงฤดูฝนราวเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม

วัดโทจิ (Toji Temple)

วัดเก่าที่สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 796 ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปไม้ขนาดใหญ่ วัดแห่งนี้โด่งดังเรื่องเจดีย์ไม้ 5 ชั้นที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น

วัดเคนนินจิ (Kenninji Temple)

วัดเซนที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น

ศาลเจ้าจินชู (Jinshu Shrine)

ศาลเจ้าแห่งความรักตั้งอยู่ในเขตวัดน้ำใส มีหินแห่งความรักตั้งอยู่ 1 คู่ มีความเชื่อกันว่าหากหลับตาแล้วเดินจากก้อนหินก้อนหนึ่งไปยังอีกก้อนหนึ่งได้ จะพบรักแท้ในเร็ววัน

การเดินทางจากประเทศไทย สามารถเดินทางโดยเครื่องบินไปลงที่เมืองโอซาก้าโดยสะดวก

การ เดินทางในเมืองและการเดินทางมาจากโอซาก้า มีบริการทั้งรถไฟและรถบัสเพื่อเดินทางมายังเกียวโต แต่ถ้าหากอยากจะแวะเที่ยวชมสถานที่เที่ยวต่างๆ ในโอซาก้าและระหว่างทาง การเช่ารถขับก็เป็นไอเดียที่ดีไม่น้อย เพราะถนนหนทางสามารถขับได้โดยง่าย สนใจเช่ารถขับ

ที่พักในเมืองเกียวโต ในเมืองเกียวโตมีที่พักหลายแบบและหลายระดับ โดยเฉพาะที่พักแนวบ้านญี่ปุ่นแบบเก่าที่ปรับปรุงมาเป็นบูติคโฮเต็ลนั้นกำลัง เป็นที่นิยมอย่างสูง ดูรีวิวและหาห้องพักถูกใจในแบบต่างๆ

 ที่มา Skyscanne.co.th

8 เหตุผล ที่ทำให้ฝูงชนดั้นด้นขึ้นเขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี

สถานที่ยอดนิยมของคนไทย เรามีเรื่องน่ารู้มาฝาก กับ 8 เหตุผล ที่ทำให้ฝูงชนดั้นด้นขึ้นเขาคิชฌกูฏ
ภาพจากคุณ Top’s Attapon

1. ตำนานศักดิ์สิทธิ์อันเลื่องชื่อ
นอกจากการนมัสการรอยพระพุทธบาท ที่เชื่อกันว่าเหมือนได้เข้าเฝ้าองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว บนยอดเขาคิชฌกูฏ นั้นยังมีปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่มาผูกกับตำนานทางพระพุทธศาสนาอยู่มากมาย ทั้งศิลาเจดีย์ หินรูปบาตรคว่ำ ถ้ำฤาษี ลานแข่งรถพระอินทร์ หินที่มีรูปร่างคล้ายเต่าและช้างขนาดยักษ์ ทำให้ผู้คนอยากมาเห็นสักครั้ง

2. พิสูจน์กำลังใจและความอดทน
การเดินทางไปเขาคิชฌกูฏ ต้องเริ่มต้นที่วัดพลวง ต้องขึ้นรถกระบะโฟว์วีลไปตามถนนที่ลาดชันมาก ระยะทางราว 8 กิโลเมตร จากนั้นต้องเดินเท้าขึ้นเขาไปอีกประมาณ 1.2 กิโลเมตร เหล่าฝูงชนต่างดั้นด้นขึ้นไปจนสุดปลายยอดเขา โดยมีความเชื่อกันว่าจะได้บุญสูงสุด และเป็นการฝึกจิตใจให้มีความอดทนไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก

3. มีเส้นทางเดินป่าที่สวยงาม
นอกเหนือจากสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แล้ว ที่นี่ยังเป็นอุทยานแห่งชาติที่เพียบพร้อมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัยเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าพออิ่มบุญกันเสร็จแล้ว ก็มาเดินป่าต่อเลย

4. เต็มไปด้วยป่าไม้นานาพรรณ
ผืนป่าของที่นี่มีความหลากหลายพอสมควร ทั้งป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา และป่าผลัดใบ เต็มไปด้วยพืชสมุนไพรและพันธุ์ไม้หายากมากมาย อย่างเช่นไม้กฤษณา เป็นต้น โดยป่าดิบชื้นจะครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานฯ ส่วนป่าดิบเขา จะอยู่บริเวณพื้นที่ยอดเขา

5. สัตว์ป่านานาชนิด
สำหรับนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และชอบส่องสัตว์ ไม่ควรพลาด เพราะที่นี่มีสัตว์ป่าหลากหลายชนิดอาศัยอยู่ ไม่ว่าจะเป็น กระทิง หมีควาย เก้ง กวางป่า เลียงผา เสือปลา หมูป่า อีเห็น พังพอน ค้างคาวแม่ไก่ นกกระทาทุ่ง ไก่ฟ้าหลังขาว นกกระปูด ฯลฯ

6. น้ำตกน่าเที่ยว

แน่นอนว่าบนภูเขา มักมีน้ำตก และที่นี่ก็จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง คุณจะได้พบกับสายน้ำอันเย็นฉ่ำของน้ำตกทั้ง 3 แห่งบนอุทยานฯ ไม่ว่าจะเป็น “น้ำตกกระทิง” เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 13 ชั้น โดยชั้นที่ 8-9 จะมีความสวยงามที่สุด โดยลำธารชั้นล่างของน้ำตกอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ เพียง 100 เมตร แห่งต่อมาคือ “น้ำตกคลองช้างเซ” ตั้งอยู่ระหว่างทางขึ้นเขาพระบาท ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่เหมาะแก่การเดินป่าศึกษาธรรมชาติเป็นอย่างยิ่ง

และสุดท้ายคือ “น้ำตกคลองไพบูลย์” น้ำตกชั้นเล็กๆ น้ำใส เย็นสะใจ มีแก่งหินน้อยใหญ่มากมาย อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 6 กิโลเมตร การเดินทางใช้เส้นทางเดียวกันกับอุทยานฯ

7. จุดชมวิวแห่งเมืองจันทบุรี
บนยอดเขาพระพุทธบาท คุณจะพบกับอากาศที่เย็นสบาย เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาสระบาป เขาสุกิม เกาะนมสาว และตัวเมืองจันทบุรีได้อย่างชัดเจน ใครยังไม่เคยไป ต้องลองสักครั้งหนึ่งในชีวิต รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

8. สนุกสนานกับการตั้งแคมป์
เมื่อมีการเดินป่า ก็ย่อมมีการตั้งแคมป์ เป็นกิจกรรมที่ขาดไม่ได้ของเหล่านักผจญภัย โดยในบริเวณที่ทำการอุทยานฯ ก็มีพื้นที่เตรียมไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้กางเต็นท์พักแรมกันด้วย หรือจะพักแบบบ้านพักเป็นหลังก็มีให้บริการ ที่สำคัญที่สุดของการเดินป่าและตั้งแคมป์ ทุกท่านควรรักษากฎของทางอุทยานฯ และรักษาธรรมชาติกันด้วยนะครับ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฎ โทร. 0 3945 2074
ข้อมูลจาก http://travel.mthai.com/travel_tips/110897.html

วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2558

9 สถานที่ท่องเที่ยว ที่คาดว่าชาวไทยจะนิยมไปเที่ยว ในปี 2558

สำหรับจุดหมายปลายทาง 9 อันดับที่คาดการณ์ว่าจะเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยในปี 2558 มีดังนี้
ภาพจาก www.euroboatcharter.com

1. นิวแคลิโดเนีย (New Caledonia) : หมู่เกาะเล็กๆ อันไกลโพ้นห่างจากชายฝั่งทางตะวันออกของออสเตรเลีย 2,000 ไมล์ และมีประชากรเพียง 246,000 คนเท่านั้น นักเดินทางสามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติที่งดงามด้วยแพ็คเกจท่องเที่ยวราคาย่อมเยาจนกระทั่งถึงกลางทศวรรษที่ 20 เพราะหลังจากเหตุการณ์เศรษฐกิจซบเซาครั้งใหญ่ อดีตอาณานิคมของประเทศฝรั่งเศสนี้กำลังอยู่ในการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่จะทำให้กลับมาเป็นจุดหมายปลายทางที่มีอิทธิพลอีกแห่งหนึ่งในปี 2558 และเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของนักเดินทาง รองมาจากฟิจิและตาฮิติ

2. ไอซ์แลนด์ : Interstellar หนังไซไฟฟอร์มยักษ์ของฮอลลีวูดประจำปี 2557 ได้ถ่ายทำหลายฉากที่นี่ ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกหลงใหลในทัศนียภาพอันงดงามตระการตาของเกาะแห่งนี้ ทิวทัศน์ที่สวยงามของไอซ์แลนด์นั้น ประกอบไปด้วยหนึ่งในภูเขาไฟที่ยังปะทุมากที่สุดในโลก บ่อน้ำพุร้อน รวมถึงธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ซึ่งเป็นฉากนำในซีรีย์สุดฮิตของช่อง HBO อย่าง Game of Thrones และทิวทัศน์ที่งดงามเพิ่งได้รับการเผยแพร่ผ่านภาพยนตร์ฮอลลีวูดถึง 2 เรื่องได้แก่ The Secret Life of Walter Mitty และ Thor นอกจากนี้นักท่องเที่ยวหลายพันคนเดินทางมายังเกาะแห่งนี้ เพื่อชมปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ซึ่งเกิดจากการสะท้อนแสงของดวงอาทิตย์ คือ แสงออโรร่า หรือแสงขั้วโลกเหนืออันสวยงามตระการตา

3. โซล : ความต้องการของนักเดินทางที่อยากจะสัมผัสวัฒนธรรมเกาหลียังคงแรงต่อเนื่องไม่มีหยุด นับตั้งแต่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวไทย คลั่งไคล้กับเพลง Gangnam Style เมื่อ 2 ปีก่อน โซลยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยือน นอกจากนี้โซลมีโรงแรมราคาประหยัดเพิ่มขึ้นมากมายเพื่อรองรับนักเดินทาง พร้อมทั้งยังมีร้านปลอดภาษีหลายแห่ง ซึ่งที่เป็นที่โปรดปรานของนักท่องเที่ยวชาวจีน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมโซลถึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ฮอตฮิตประจำปี 2558

4. ฟอร์ต ลอเดอร์เดล : เมืองอันสดใสแห่งนี้ดึงดูดนักเดินทาง โดยเฉพาะเหล่าหนุ่มสาวในช่วงปิดเทอม ตั้งแต่ช่วงปี 2500 อย่างไรก็ตามเมืองแห่งนี้กำลังพัฒนาและเปลี่ยนแปลงเพื่อดึงดูดกลุ่มนักเดินทางวัยทำงานหรือผู้ใหญ่ และได้รับการคาดการณ์ว่าจะเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวไทยในปี 2558 โดยจะมีการลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ประกอบด้วยการทุ่มเงิน 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อขยายสนามบิน สถานีรถไฟความเร็วสูงแห่งใหม่ และการสร้างที่พักอันหรูหรามากมาย
 

ภาพจาก sites.dartmouth.edu

5. นิการากัว (Nicaragua) : หลังจากได้รับการคาดการณ์มาเป็นเวลาหลายปีว่าจะก้าวมาเป็นคอสต้าริก้าแห่งใหม่ ในที่สุดนิการากัวก็ขึ้นแท่นสถานที่น่าท่องเที่ยวประจำปี 2558 ผืนป่าที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นแหล่งกบดานของกลุ่มโจรติดอาวุธ วันนี้ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่สำคัญ นักเดินทางที่มาเยือนจะได้พบกับผืนป่ามากมาย ภูเขาไฟที่สวยงาม สถาปัตยกรรมอันน่าตรึงใจ และชายหาดที่ยังคงความงามตามธรรมชาติ รวมถึงการเติบโตของโรงแรมระดับ 5 ดาว ตอนนี้นิการากัวกลายเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ปลอดภัยและคุ้มค่าแก่การมาเยือนมากที่สุดในเขตลาตินอเมริกา พร้อมทั้งมีโรงแรมและร้านอาหารระดับโลกอีกด้วย

6. ภูฏาน : ความห่างไกลอาจเป็นคำนิยามที่เข้ากับความมหัศจรรย์ของภูฏานได้ดีที่สุด แต่ด้วยเส้นทางการบินที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ประเทศที่อยู่ท่ามกลางเทือกเขาหิมาลัยแห่งนี้ ทะยานสู่สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปมากที่สุดแห่งหนึ่งประจำปี 2558 นอกจากนั้นภูฏานยังเปิดโอกาสให้นักเดินทางผจญภัยท่องโลกอย่างตื่นเต้นเร้าใจ พร้อมทั้งยังมีรัฐบาลที่ให้ความสำคัญและเอาใจใส่ความสุขของประชาชนอย่างสม่ำเสมอ พอๆ กับเศรษฐกิจของประเทศ แล้วคุณจะได้ไขความลับของภูฏานว่าเพราะเหตุใดประเทศนี้เป็นจุดหมายปลายทางที่ทั่วโลกสนใจ

7. บราซิล : หลังจากที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2557 บราซิลกลายเป็นจุดหมายปลายทางหลักบนแผนที่ของชาวอังกฤษ อย่างไรก็ตามหากเป็นเหมือนกรณีลอนดอนที่เพิ่งจัดงานโอลิมปิกไปในปี 2555 การท่องเที่ยวจะตื่นตัวหลังจากผ่านการแข่งขันไป1-2 ปี หลังจากราคาตั๋วเครื่องบินและโรงแรมลดลง แต่การลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐานยังคงมีให้เห็นอยู่

8. โอกินาว่า : หมู่เกาะเขตร้อนที่เรียงรายเป็นระยะทางกว่า 1,000 กิโลเมตร จากทะเลจีนใต้ไปสู่ปลายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น เกือบถึงไต้หวัน โอกินาว่าเป็นหมู่เกาะที่เปรียบเสมือนสรวงสวรรค์ของคนท้องถิ่น ด้วยโรงแรมหรูหรา แหล่งดำน้ำระดับโลก ป่าไม้อันสมบูรณ์ ชายหาดสีขาวบริสุทธิ์ แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมเชิงมรดกโลกของ UNESCO และวัฒนธรรมกับอาหารที่สืบทอดกันมาแต่โบราณนั้น จะทำให้โอกินาว่าดึงดูดนักผจญภัยทั่วโลกให้มาเยือนอีกแห่งหนึ่ง

9. ไทเป ประเทศไต้หวัน : ด้วยจำนวนการค้นหาตั๋วเครื่องบินเฉลี่ยจากทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 56 ต่อปีนั้น ทำให้ไทเปเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับเหล่านักช็อปตัวยงมากยิ่งขึ้นไปอีกในปี 2558 ซึ่งแตกต่างจากสมัยก่อนเป็นอย่างมาก ปัจจุบันไทเปกำลังปรับปรุงเมืองให้เต็มไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะ ความทันสมัย แหล่งช็อปปิ้งอันหรูหรา และความหลากหลายของโรงแรมใหม่ๆ ที่มีตั้งแต่โรงแรมบูทีคเก๋ๆ ไปจนถึงโรงแรมหรูหราระดับนานาชาติ ซึ่งคาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยที่กำลังมองหาจุดหมายปลายทางอันทันสมัย

การท่องเที่ยว กับ บางสิ่ง ที่หายไป

นักเดินทางรุ่นเก๋าหลายคนคงเคยนึกเปรียบเทียบรูปแบบการท่องเที่ยวสมัยก่อนและสมัยนี้ว่า ในทศวรรษนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการเดินทางมากมาย ซึ่งช่วยให้การเตรียมตัวและวางแผนการเดินทางง่ายขึ้น เช่นสมาร์ทโฟนและอินเตอร์เน็ต แน่นอนว่า เมื่อมีสิ่งใหม่ๆ เข้ามาก็จะทำให้หลายสิ่งที่เราคุ้นชินค่อยๆ หายไป เช่น โปสการ์ด


ก่อนหน้านี้เมื่อไปเที่ยวที่ไหน หลายคนมักชอบส่งโปสการ์ดกลับมาหาตัวเองหรือส่งไปให้เพื่อนฝูง แต่เมื่อทุกคนใช้สมาร์ทโฟน พวกเขาก็จะเลือกส่งข้อความ โพสต์รูป วิดีโอในเฟซบุค ทวิตเตอร์และไลน์มากกว่าเพราะสะดวกและรวดเร็ว สื่อในสหรัฐเคยรายงานว่า จำนวนโปสการ์ดที่ส่งในสหรัฐน้อยลงเรื่อยๆ

อุปกรณ์ประกอบการท่องเที่ยวที่กำลังหายไปอีกอย่างคือ ไกค์บุค เพราะเดี๋ยวนี้ นักท่องเที่ยวสามารถหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตในสมาร์ทโฟนได้มากมาย ยังรวมถึงโพสต์และข้อแนะนำต่างๆ ของคนที่เคยไปที่ๆ เราต้องการไป ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราตัดสินใจได้เป็นอย่างดี แต่บางคนก็อาจจะเถียงว่า การเดินเปิดไกค์บุคไปในที่ต่างๆ จะทำให้ได้อรรถรสในการเดินทางอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ถ้าเราทำไกค์บุคหายหรือตกในระหว่างเดินทางก็คงไม่เสียดายเท่าทำสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตหาย

อีกอย่างที่กำลังหายไปคือ อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ เราๆ ท่าน คงจำกันได้ดีว่า เวลาไปเที่ยวที่ไหน ไม่ว่าในหรือต่างประเทศ พวกเราใช้เวลาหลังจากท่องเที่ยวที่นี่เพื่อส่งอีเมลล์พร้อมแนบรูปส่งไปให้ที่บ้านและเพื่อนฝูง ก่อนหน้านี้ใครไปไหนแล้วส่งอีเมลล์กลับหาที่บ้านก็ดูโก้เก๋ อินเทรนด์มากแล้ว แต่ในสมัยนี้ แต่ละสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรมและที่พักเกือบจะทุกแห่งมีบริการ wifi ให้ผู้เข้าพักและนักท่องเที่ยวอย่างไม่อั้น ว่ากันว่า wifi ในไทยและเวียดนามหาง่ายเหมือนร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทาง พวกเราเองก็มีอุปกรณ์พร้อม ไม่ว่าโทรศัพท์ แล็ปท็อป แท็บเล็ตหลากหลายแบรนด์ ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาอินเตอร์เน็ตคาเฟ่อีกต่อไป ร้านพวกนี้ก็ต่างพากันทยอยปิดไปหลายประเทศเช่น โมรอคโค อินเดีย จีนและอังกฤษ

นักท่องเที่ยวหลายคนนิยมพกนาฬิกาปลุกไปท่องเที่ยวด้วย เพราะประเทศที่ไปอาจมีเวลาที่แตกต่างกันมากกับประเทศของตนเอง แต่เมื่อมีสมาร์ทโฟนและแอพพลิเคชั่นต่างๆ นาฬิกาปลุกก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป เพราะมันมีทั้งนาฬิกาปลุก นาฬิกาที่บอกเวลาในหลายๆ ประเทศพร้อมกัน และที่สำคัญนักท่องเที่ยวสามารถบันทึกแผนการแต่ละวันในสมาร์ทโฟนได้ด้วย แอพฯ บางตัวสามารถส่งเสียงเตือนได้อีกต่างหาก แต่พวกเราคงเคยมีประสบการณ์ว่า ตั้งนาฬิกาในโทรศัพท์ให้ปลุก แต่ก็ไม่ปลุกเพราะอาจจะตั้งวิธีผิดวิธีหรือตั้งเช้าเป็นบ่าย บ่ายเป็นเช้าก็ได้เหมือนกับตั้งนาฬิกาปลุกให้ปลุก แต่ไม่ปลุกเพราะถ่านหมด

การหายไปของแผนที่ก็เป็นผลมาจากอินเตอร์เน็ตเช่นเดียวกัน ก่อนหน้านี้เวลาไปที่ใดนักท่องเที่ยวก็จะตรงรี่ไปร้านหนังสือ หรือศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวก่อนเพื่อขอแผนที่แล้วจึงค่อยวางแผนจะไปที่ใด แต่ปัจจุบัน พวกเราวางแผนท่องเที่ยวอย่างละเอียดได้ก่อนหน้ามาถึงจากแผนที่ออนไลน์และจีพีเอส ผู้ผลิตแผนที่ฉบับกระดาษต่างพากันเปลี่ยนธุรกิจมาทำทางออนไลน์ เช่น ฝ่ายแผนที่และสำรวจของอังกฤษซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับการทำแผนที่รายงานว่า การขายแผนที่ลดลงประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะคนหันไปใช้แผนที่ออนไลน์และจีพีเอสแทน ตอนนี้คงไม่ค่อยได้เห็นภาพนักท่องเที่ยวเดินถือแผนที่ชี้โบ๊ชี้เบ๊กันอีกแล้วแน่ๆ

ในยุคดิจิทัลนี้ เราคงเห็นร้านขายอัลบั้มรูปค่อยๆ หายไป เด็กๆ รุ่นใหม่อาจไม่รู้จักอัลบั้มรูปอีกต่อไปเพราะพวกเขามีทั้งเฟซบุค อินสตาแกรมและอัลบั้มรูปออนไลน์ที่สามารถเก็บรูปได้ไม่จำกัด นอกจากนี้ ตอนนี้นักท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องพกเงินไปมากๆ ซึ่งเสี่ยงกับการหายหรือโดนปล้น เพราะตอนนี้การทำธุรกรรมด้านการเงินสามารถติดต่อถึงกันได้ทั่วโลก พวกเขาสามารถใช้บัตรเครดิตหรือเบิกเงินจากตู้เอทีเอ็มในทุกที่ที่เดินทางไป

ที่มา Bangkokbiznews.com

ราคา .. ต้องมาก่อน ตัวเลือกแรกของการจองเครื่องบิน

คุณๆ ลองคิดไว้ในใจ ว่า "ระหว่างสิทธิพิเศษในการใช้ห้องน้ำ กับ ราคาที่ถูกกว่า คุณจะเลือกอะไร?"

ถ้าตอบว่า "ราคา" คุณคือคนส่วนใหญ่ของผลการสำรวจทัศนคติของนักท่องเที่ยวในเอเชียแปซิฟิกที่มีต่อสายการบินต้นทุนต่ำ ที่ฝ่าย Global Tour & Transport ของ Expedia ได้จัดทำขึ้นและได้เปิดเผยผลสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้ว่า "94% จากผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมด พร้อมสละสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย" และเมื่อพิจารณาถึงการเติบโตของสายการบินต้นทุนต่ำในเอเชียแปซิฟิกแล้ว คาดว่าจะมีการให้บริการเพิ่มขึ้น 9.5% เมื่อเทียบรายปีในเดือนมีนาคม 2015 ซึ่งนับเป็นข่าวดีสำหรับนักท่องเที่ยว


ภาพจาก news.gtp.gr

ทั้งนี้ดัชนีสายการบินต้นทุนต่ำประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกปี 2015 ของ Expedia ได้สำรวจความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวราว 3,200 คนในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง อินเดีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และไต้หวัน โดยถือเป็นการต่อยอดจากดัชนีสายการบินต้นทุนต่ำประจำภูมิภาคยุโรปตะวันตกปี 2014 ซึ่งศึกษาตัวเลือกของนักท่องเที่ยวระหว่างค่าโดยสารและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ

การสำรวจดังกล่าวได้รวบรวมทัศนคติของนักท่องเที่ยวที่มีต่อบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกของสายการบินต้นทุนต่ำเทียบกับสายการบินทั่วไป รวมถึงสิ่งที่นักท่องเที่ยวยอมสละเพื่อแลกกับการลดค่าโดยสาร พร้อมกับเผยว่าผู้โดยสารนำเงินที่ประหยัดได้ไปใช้ทำอะไร สำหรับปัจจัยที่นักท่องเที่ยวใช้พิจารณาเลือกสายการบินต้นทุนต่ำนั้น ผลสำรวจพบว่าปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกสายการบินมากที่สุดคือ ประวัติความปลอดภัยของสายการบิน

นักท่องเที่ยวเพศชาย มีแนวโน้มมากกว่าเพศหญิงเล็กน้อยในการสละสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างหมอนและผ้าห่ม ฟรีค่าบริการฝากสัมภาระลงใต้ท้องเครื่อง และสิทธิพิเศษในการใช้ห้องน้ำ เพื่อแลกกับการลดค่าโดยสาร

และนอกเหนือจากปัจจัยเรื่องเพศแล้วยังมีปัจจัยเรื่องอายุด้วย โดยผู้โดยสารอายุน้อย (ต่ำกว่า 35 ปี) เชื่อว่าการสละพื้นที่วางขาและสิทธิ์ในการนำกระเป๋าสัมภาระขึ้นเครื่องเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุด ส่วนผู้โดยสารที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไปเลือกที่จะสละบริการอาหารแบบฟูลมีลเพื่อประหยัดค่าตั๋ว

นักท่องเที่ยวในเอเชียแปซิฟิกเกินครึ่งหนึ่ง (56%) เต็มใจสละความบันเทิงบนเครื่องบินเพื่อประหยัดค่าตั๋ว ตามมาด้วยบริการอาหารแบบฟูลมีล (49%) หมอนและผ้าห่ม (48%) ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกที่เต็มใจสละน้อยที่สุดได้แก่ พื้นที่วางขา สิทธิพิเศษในการใช้ห้องน้ำ และสิทธิ์ในการนำกระเป๋าขึ้นเครื่อง

ที่มา Bangkokbiznews.com

10 คำโกหกของ “ปารีส”


เพียงแว่บแรกที่ได้ยลโฉมความงดงามอันน่าตะลึง สวนสวยปริศนาและขนมสุดแสนอร่อยของดินแดนน้ำหอมแห่งนี้ หลายคนถึงกับพร่ำเพ้อว่าเมืองอะไรช่างโรแมนติกเสียจริงๆ แต่ถ้าพูดกันจริงๆ แล้ว หลายคนที่เคยไปเที่ยวปารีสมา กลับพบว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่คิดทุกอย่าง ซึ่งทำให้สงสัยว่าทำไมทุกคนพยายามกระจายข่าวลือที่เหลือเชื่อเกี่ยวกับปารีสว่ามันเป็นทุกอย่างของชีวิต



ภาพจาก hdwallsource.com

มันถึงเวลาที่จะต้องพูดความจริงกันแล้ว จงอย่าไปเชื่อคำโกหกที่พูดถึงปารีสกันต่อๆ มาว่า

“ไม่มีอะไรจะสวยงามไปกว่าการได้ไปเยือนหอไอเฟล” ข้อมูลที่ถูกต้องคือไม่มีอะไรจะสวยงามไปกว่าแถวนักท่องเที่ยวยาวเหยียดที่รอขึ้นไปชมหอไอเฟลในทุกวันเสาร์

“ปารีสเป็นเมืองโรแมนติกที่สุดในโลก” ความจริงคือ มีการทำโพลเร็วๆ นี้พบว่านักท่องเที่ยวยกให้เมืองเวนิซของอิตาลีเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุด นอกจากนี้การจุมพิตภายใต้สายฝนก็ยากที่จะโรแมนติก

“อาหารรสเลิศ” ขากบเย็นชืดและราคาแพงเว่อร์ นี่หรือที่เรียกว่าอร่อยเหลือเชื่อ

“ปิกนิกด้วยขนมปังบาแกตและชีสเป็นสิ่งเยี่ยมยอดที่สุด” คำพูดนี้ไม่ผิด จนกระทั่งมีคนอีก 4,000 คู่ที่คิดและทำแบบเดียวกัน

“ครัวซองสดใหม่ทุกวัน” เป็นเรื่องจริง จนกระทั่งพบว่าครัวซองราคาอันละ 4 ยูโร หรือ 150 บาทซึ่งเกือบครึ่งหนึ่งของงบประมาณที่ใช้ต่อวัน

“คนปารีสไม่หยาบคาย เพียงแต่ไม่รู้ภาษาอังกฤษ” ถ้าเจอปัญหานี้ ก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เช่นกัน

“สาวฝรั่งเศสไม่อ้วน” สาวฝรั่งเศสแท้ๆ อาจจะไม่เจ้าเนื้อ แต่สาวที่เป็นนักท่องเที่ยวที่มาจากที่อื่นต้องอ้วนกลับไปแน่ๆ เพราะมาการองเป็นขนมที่ช่วยเพิ่มน้ำหนักได้อย่างดี

"ภาพวาดโมนาลิซาน่าประทับใจมากเมื่อมองเห็นด้วยตาตัวเอง" สิ่งที่น่าตกใจกว่าคือฝูงชนที่พยายามจะเบียดเสียดเพื่อให้ใกล้ชิดกับภาพวาดให้มากที่สุด

"คุณจะรู้สึกเป็น ‘ผู้หญิง’ มากเวลาอยู่ในปารีส" คำว่า “เหงื่อ" และ "เหยียบย่ำ" น่าจะเป็นคำคุณศัพท์ที่เหมาะกว่า

"เขาจะขอแต่งงานที่นั่น!" ชีวิตไม่ได้เป็นอย่างที่วางแผนหรือคาดไว้เสมอไป
.................
ที่มา เว็บไซต์ฮัฟฟิงตันโพสต์ และ Bangkokbiznews.com

วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2558

6 เกาะสวรรค์ในไทย สวยงามสุดใจต้องไปสักครั้ง

เพราะความงามของทะเลนั้นแตกต่างกันไป ทะเลไทย สวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่แพ้ที่ไหนๆ ในโลกเช่นกัน จะมีที่ไหนบ้าง ที่ที่คุณๆ ไม่ควรพลาด กับ 6 เกาะสวรรค์ในไทย สวยงามสุดใจต้องไปสักครั้ง

หมู่เกาะพีพี
สัมผัสดินแดนเหนือจินตนาการที่จะตราตรึงใจให้คุณทั้งสองลืมตื่นจากภวังศ์ ด้วยความงดงามของน้ำทะเลสีมรกตที่ถูกโอบกอดไว้ด้วยขุนเขาและหน้าผาที่สูงชัน ชมความงามของอ่าวมาหยาที่เสื่องชื่อไปทั่วโลก พร้อมกับไปปืนหน้าผาที่อ่านนาว และอ่าวไร่เลย์ ซึ่งเป็นจุดที่ปืนหน้าผาที่มีชื่อเสียงก่อนจะปิดท้ายด้วยการเก็บภาพสวยๆ มาทำ Scrapbook หรือบันทึกรอบยิ้มเก็บไว้ด้วยกันที่ทะเลแหวก ซึ่งเป็นสันทรายขาวสะอาดที่ธรรมชาติสร้างขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์

หมู่เกาะสิมิลัน
ลาพักร้อนและพาเธอไปพลอดรักบนพื้นทรายที่นุ่มละเอียดท่ามกลางแสงอาทิตย์บน หมู่เกาะสิมิลัน เกาะสวรรค์สำหรับการพักผ่อนในช่วงเดือนมีนาคม ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นช่วงที่อากาศดีที่สุด น้ำทะเลสีครามและไม่มีมรสุม เกาะสิมิลันตั้งตระหง่านท่ามกลางท้องทะเลอันดามันสีฟ้าครามอันเลื่องชื่อใน ความงามของแนวปะการังที่สมบูรณ์ เหมาะสำหรับงานวิวาห์ใต้ทะเลอันแสนโรแมนติกอย่างยิ่ง

หมู่เกาะอ่างทอง
มอบของขวัญจากธรรมชาติด้วยภาพที่สวยงามกึ่งความจริงและความฝัน ณ จุดชมวิวบนเกาะวัวตาหลับ ซึ่งเลื่องลือในเรื่องความงดงาม แต่การเดินทางไปชมนั้นต้องเดินเท้าเปล่าผ่านพื้นที่ลาดชันที่รอให้คุณทั้ง สองฝ่าฟันอุปสรรคไปดื่มด่ำความงดงามร่วมกัน เกาะแห่งนี้มีรูปร่างแปลกตาทอดยาวบนพื้นทะเลที่แต่งแต้มด้วยสีคราม พร้อมสัมผัสความงดงามอันน่ามหัศจรรย์ของทะเลในหรือทะเลสาบกลางภูเขาบนเกาะ แม่เกาะ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่หาพบได้ยาก บริเวณจุดชมวิวที่ห่างออกไปอีก 400 เมตร จะเห็นวิวทิวทัศน์ของทะเลปิดที่โอบล้อมด้วยขุนเขาและแมกไม้อันเขียวขจี

หมู่เกาะสุรินทร์
กระซิบที่ข้างหูของเธอเบาๆ ยามเมื่อชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามบนหมู่เกาะสุรินทร์ และใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายร่วมกันด้วยการนอนกางเต็นท์บริเวณหน้าอ่าวช่องขาด พร้อมกับจูงมือกันดำดิ่งไปชมความงามของปะการังบริเวณกองหินปริ่มน้ำหรือที่ ชาวท้องถิ่นเรียกว่า “ริเชลิว” ซึ่งห่างจากเกาะสุรินทร์ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 14 กิโลเมตร หรือดำน้ำตื้นบริเวณอ่าวรอบๆ หมู่เกาะสุรินทร์ที่เต็มไปด้วยแนวปะการังที่สมบูรณ์ที่สุด สำหรับคู่รักที่ชอบกิจกรรมดำน้ำไม่ควรพลาดการเดินทางไปพักผ่อนที่เกาะแห่ง นี้

เกาะช้าง-เกาะกูด
ลองจินตนาการดูซิว่าความโรแมนติกในยามที่คุณและแฟนนั่งเรือเฟอร์รี่แล้ว ค่อยๆ ล่องไปบนผืนทะเลฝั่งอ่าวไทยที่ความใสราวกับกระจก จะนำทางคุณทั้งสองไปสู่หาดทรายขาวดั่งความรักที่บริสุทธิ์ เกาะช้างแห่งนี้รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์ของป่าและน้ำตกที่รอให้คุณ และคนรักเดนิจูงมือลัดเลาะป่าอันเขียวขจีเข้ามาสัมผัสสายน้ำเย็นๆ พร้อมๆ กับการชมนกและผีเสื้อที่หาดูได้ยาก หรือนั่งเรืออกไปดำน้ำดูฝูงปลาและปะการังหลากสีสัน และหากคุณต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นอาจเลือกเดินทางไปพักที่เกาะกูด ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเกาะช้างมากนัก ทั้ง 2 เกาะนี้ เหมาะสำหรับการเดินทาไปฮันนีมูนในช่วงฤดูร้อนเป็นอย่างยิ่ง

เกาะตะรุเตา
ลองนึกถึงฉากโรแมนติกที่แจ็คและโรสยืนอยู่บนกราบเรือไททานิค ที่โอบล้อมด้วย พื้นทะเลกว้าง พาเธอมาชมทัศนียภาพและหยอกล้อกันเบาๆ ท่ามกลางสายลมที่พัดบริเวณหน้าผาที่ยื่นออไปในทะเล ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่เชื่อมต่อระหว่างอ่าวพันเตมะละกากับอ่าวจาก หรือจูงมือกันเดินลัดเลาะไปตามหมู่เกาะอาดัง-ราวีซึ่งมีหาดทรายที่สวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหาดทรายบนเกาะไข่ซึ่งเป็นเกาะที่เต่าทะเลมาวางไข่ และไม่ควรพลาดพาเธอไปเก็บภาพความงามของเกาะหินช้อนซึ่งมีหินก้อนใหญ่รูปทรง แปลกตา 2 ก้อนเรียงซ้อนกันอยู่ราวกับนิยามความรักที่ธรรมชาติสร้างสรรค์

รวม 10 วัด ที่สวยที่สุดในโลก

ท่องอินเตอร์เน็ตมานาน สนใจบทความเกี่ยวกับการจัดอันดับเป็นพิเศษ แต่ครั้งนี้ขอไม่จัดอันดับก็แล้วกันค่ะ รวบรวมมาฝาก กับ 10 วัดสวยๆ รอบโลก

รวม 10 วัด ที่สวยที่สุดในโลก


ภาพจาก Tiger’s Nest Monastery

Tiger’s Nest Monastery ประเทศภูฏาน
ถือเป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของภูฐาน ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง 700 เมตร จากพื้นล่างในหุบเขาปาโร และด้วยระดับความสูง 3,120 เมตร จากระดับน้ำทะเล ฉายาว่า “รังเสือ” ของวัดนี้ ได้มาจากตำนานเก่า ที่เล่าว่า พระรินโปเช (Padmasambhava – Guru Rinpoche) ซึ่งเป็นผู้เผยแพร่นิกายมหายานในภูฐาน ได้เหาะมาที่นี่บนหลังเสือ และได้เข้าไปนั่งวิปัสสนากรรมฐานอยู่ในถ้ำ เป็นเวลาถึง 3 เดือน หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2227 จึงเริ่มมีการสร้างวัดนี้ขึ้นมา

วัดร่องขุ่น จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย
วัดร่องขุ่น (Wat Rong Khun) ออกแบบและก่อสร้างโดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ซึ่งปรารถนาจะสร้างวัด ให้เหมือนเมืองสวรรค์ที่มนุษย์สัมผัสได้ เริ่มสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2540 จากเดิมมีเนื้อที่ 3 ไร่ ได้ซื้อที่ดินเพิ่มและมีผู้บริจาคคือ คุณวันชัย วิชญชาคร จนปัจจุบันมีเนื้อที่ 9 ไร่

Prambanan : Hindu temple ประเทศอินโดนีเซีย
วัดฮินดูพรัมบานัน : Prambanan Temple พรัมบานันเป็นวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินโดนีเซียหรือจะเรียกว่า ใหญ่ที่สุดในเอเซียอาคเนย์เลยก็ได้ ตั้งอยู่ที่เมืองพรัมบานัน ตอนกลางของเกาะชวา และอยู่ไม่ไกลจากเกาะจากาตาร์มากนัก วัดถูกสร้างขึ้นเมื่อราวปี พ.ศ. 1340 โดยสันนิษฐานว่า น่าจะสร้างขึ้นในสมัยของกษัตริย์ Rakai Pikatan จากราชวงศ์ Mataram ที่ 2 หรืออาจะสร้างในสมัยกษัตริย์ Balitung Maha Samba จากราชวงศ์ Sanjaya ได้รับความเสียหายมากในช่วงปี 2006 เพราะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่นี่

Chion-in Temple กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
วัดจิออนอิน (Chion-in temple) พื้นที่ของวัดนั้ใหญ่โตอลังการ แทรกตัวอยู่ในเขาเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นมาก วัดนี้สร้างในปี ค.ศ. 1234 เพื่อเป็นเกียรติให้กับผู้ก่อตั้ง ศาสนาพุทธนิกายโจโด เป็นนักบวช ชื่อว่า Honen

The Harmandir Sahib : the Golden Temple in Punjab ประเทศอินเดีย
วิหารฮัรมันดิร ซาฮิบ หรือ วิหารทองคำ เป็นวิหารที่สำคัญที่สุด ในศาสนาซิก ตั้งอยู่ที่เมืองอัมริตสาร์ เมืองหลวงของ แคว้นปัญจาบ ทางภาคเหนือของประเทศอินเดีย

The Temple of Srirangam (Sri Ranganathaswamy Temple) ประเทศอินเดีย
วัดนี้อยู่ในประเทศอินเดีย เมือง Tiruchirapalli หรือ Trichy เป็นวัดของศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Ankor Wat : the largest temple in history ราชอาณาจักรกัมพูชา
ปราสาทนครวัด (Angkor Wat) เป็นเทวสถานฮินดูลัทธิไวษณพนิกาย ที่นับถือพระวิษณุเป็นเทพเจ้าสูงสุด สร้างโดยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 เมื่อช่วงครึ่งแรกคริสต์ศตวรรษที่ 12 เพื่ออุทิศถวาย แด่องค์พระวิษณุที่พระองค์เชื่อว่า เป็นร่างของพระองค์เอง ในขณะที่ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ และหลังจากสิ้นพระชนม์ไปแล้ว ศาสนสถานแห่งนี้ ก็จะเป็นพระราชสุสานที่พระองค์ จะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับองค์พระวิษณุ

Borobudur เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย
บุโรพุทโธ ( Borobudur ) พุทธสถานอันศักดิ์สิทธิ์ ที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 8-9 โดยกษัตริย์ราชวงศ์ไศเลนทร ตั้งอยู่บนเนินสูงของเกาะชวาภาคกลาง ห่างจากเมือง ยอกยากาตาร์ ( Yogyakata ) ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 40 กิโลเมตร ถือเป็นโบราณสถาานขนาดใหญ่ และเป็นศูนย์รวมแห่งความภาคภูมิใจของชาวอินโดนิเซีย และชาวพุทธทุกคน ซึ่งหวังจะไปแสวงบุญสักครั้งในชีวิต เจดีย์บุโรพุทโธรูปทรงดอกบัวนี้ก่อสร้างตามแบบศิลปะฮินดู-ชวา หรือศิลปะชวาภาคกลางที่ผสมผสาานระหว่างอินเดียและอินโดนีเซีย ได้อย่างกลมกลืนที่สุด บุโรพุทโธเปรียบเป็นศูนย์กลางของจักรวาล

Temple of Heaven : a Taoist temple in Beijing สาธารณรัฐประชาชนจีน
หอฟ้าเทียนถานเป็นสถานบวงสรวงเทพยดาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งยังคงรักษาไว้ในจีน ประกอบด้วยตําหนักฉีเหนียนเตี้ยน ตําหนักหวงฉงอี่ และลานหยวนชิว เป็นต้น เทียนถานตั้งอยู่ทางทิศใต้ของกรุงปักกิ่ง มีเนื้อที่ทั้งหมด ๒๗๓ เฮกต้าร์ เป็นสถานซึ่งจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิงใช้เป็นที่บวงสรวงเทพยดา ในระยะย่างเข้าฤดูหนาว ถึงเดือนอ้ายตามจันทรคติทุกปี พระจักรพรรดิจะเสด็จไปประกอบ พระราชพิธีบวงสรวงที่นั่นเพื่อให้การเก็บเกี่ยวได้ผลอุดม

The Shwedagon Paya (or Pagoda) สหภาพพม่า
พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เชื่อกันว่าเป็นมหาเจดีย์ที่บรรจุ พระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น ตามตำนาน เจดีย์ชเวดากองนั้นสร้างเมื่อง 2,500 ปีที่แล้ว แต่นักโบราณคดีเชื่อกันว่าสร้างระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 6-10 สร้างโดยชาวมอญ ตามตำนานนั้นเริ่มจากว่า มีสองพี่น้อง พ่อค้า 2 คน ได้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้ามา พระองค์จึง ประทานพระเกศามา 8 เส้น พระเจดีย์ได้ถูกทิ้งร้าง จนมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 14 รัชสมัยพระเจ้าพินยาอู ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระเจดีย์ใหม่สูง 18 เมตร พระเจดีย์ได้ถูกซ่อมแซมมาเรื่อยมา จนมามีความสูง 98 เมตรในปัจจุบัน บนยอดสุดของพระเจดีย์ มีเพชรอยู่ 5,448 เม็ด โดยเฉพาะ ชั้นข้างบนสุดมีเพชรเม็ดใหญ่อยู่ 72 กะรัต และทับทิม 2,317 เม็ด

ที่มา : http://www.fwdder.com
http://travel.mthai.com/world-travel/15758.html

วันศุกร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2558

10 สถานที่ท่องเที่ยวสุดโรแมนติก

ต่อไปนี้คือ 10 อันดับสถานที่ ที่ถูกจัดว่า มีความโรแมนติกมากที่สุดในโลก ซึ่งน่าจะหาโอกาสพาคนรักไปเยี่ยมชม สักครั้งหนึ่งในชีวิต

อันดับที่ 1. mauritius island
สถานที่แห่งนี้ ได้รับการกล่าวขานว่า “ปลายทางสุดท้าย ที่โรแมนติกมากที่สุด” (ultimate romantic destination) เกาะ mauritius มีชื่อเสียงอย่างมาก ในหมู่คู่รักที่จะมาท่องเที่ยว หรือคู่รักที่จะมาฮันนีมูน ต้นปาล์มมากมาย ที่เคลื่อนที่พริ้วไหว ไปตามสายลม บรรยากาศที่สวยงามตามธรรมชาติ แนวหินปะการัง และท้องทะเลสีฟ้า เป็นส่วนหนึ่ง ในอีกหลายๆ สิ่ง ที่ทำให้สถานที่แห่งนี้ สวยงามจนยากที่จะลืมเลือน

อันดับที่ 2. cairo ประเทศอียิปต์ เมือง cairo
ก็ได้รับการกล่าวขานว่า เป็นสวรรค์บนโลกเช่นเดียวกัน (โดยเฉพาะสำหรับคู่รัก) ความงดงามและมนต์เสน่ห์ที่อยู่ในตัวเมือง คือแรงดึงดูด ใหคู่รักเดินทางมาใช้เวลาท่องเที่ยวที่นี่ด้วยกัน และปิรามิด ก็คือสิ่งที่พิเศษที่สุด ท่ามกลางความสยงามในตัวเมือง

อันดับที่ 3. new york ประเทศสหรัฐอเมริกา
เมือง new york เหมาะสำหรับคู่รัก ที่กำลังมองหาสถานที่ ที่จะใช้ช่วงเวลาแห่งความรัก และความโรแมนติกในหลากหลายรูปแบบ ร้านอาหาร และร้านค้าจำนวนมาก และสถานที่น่าสนใจอื่นๆ เช่น สถานีรถไฟ grand central terminal, อนุสาวรีย์เทพีสันติภาพ และสวนหย่อมขนาดใหญ่ central park (มีกิจกรรมคอนเสริ์ต, มีลานสเก็ตน้ำแข็ง)

อันดับที่ 4. prague สาธารณรัฐเช็ก
อีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับสถานที่โรแมนติก ก็คือ เมือง prague ของสาธารณรัฐเช็ก สถานที่แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย วัฒธรรม และปราสาทเก่าแก่ ผู้คนที่มีมิตรไมตรี และสุภาพอ่อนโยน เมือง prague เป็นสถานที่เกิดของนักดนตรีระดับโลก อย่าง mozart และมีชื่อเสียงในเรื่องของทางเดินอันสวยงามในเมือง ที่คู่รัก สามารถใช้เวลาเดินเล่นด้วยกัน

อันดับที่ 5. monte carlo ประเทศโมนาโค เมือง monte carlo
ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่โรแมนติก ที่คุณจะได้สื่อความรัก ไปยังคนรักของคุณ เมืองนี้ตั้งอยู่ที่ตีนของเทือกเขาเอลป์ และเป็นสถานที่ ที่มีเรื่องราวของความรัก ก่อกำเนิดขึ้นมากมาย สิ่งที่น่าสนใจของเมือง monte carlo คือบ่อนคาสิโนเลื่องชื่อ (monte carlo casino) พิพิทธภัณธ์ทางทะเล, พิพิทธภัณฑ์ประจำชาติ และพระราชวัง prince

อันดับ ที่ 6. vienna ประเทศออสเตรีย เมือง vienna ในประเทศออสเตรีย
 เป็นอีกสถานที่ ที่มีคู่รักจากทั่วทุกมุมของโลก แวะเวียนมาเยี่ยมชมความสวยงาม สิ่งที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้คือ สุดยอดสถาปัตยกรรม และสุดยอดผลงานเพลง, ศิลปะ และพิพิทธภัณฑ์ศิลปะ ที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก พระราชวัง schoenbrunn, พระราชวัง belvedere, พระราชวัง the hofburg imperial และพิพิทธภัณฑ์นักจิตวิทยาผู้โด่งดัง sigmund freud

อันดับที่ 7. schloss neuschwanstein ประเทศเยอรมันนี
สถานที่ ที่ผสมผสาน ความสวยงามตามธรรมชาติ เข้ากับจินตนาการ และความสร้างสรรค์ของมนุษย์ ได้อย่างลงตัว เมือง schloss neuschwanstein มีความสวยงาม ราวกับเป็นสวรรค์บนพื้นโลก รายล้อมไปด้วยทิวทัศน์อันสวยงาม ปราสาทเก่าแก่อายุ 100 กว่าปี (สร้างปี 1899) ซึ่งเยอรมัน ได้ถูกกล่าวขานว่า เป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่มีปราสาทสวยงามที่สุดในยุโรป

อันดับ ที่ 8. vanice ประเทศอิตาลี
หากคุณกำลังมองหาสถานที่ ที่จะเอ่ยกับคนรักว่า เขาหรือเธอ เป็นคนที่มีค่ามากที่สุดในชีวิต venice ก็คือ คำตอบสุดท้ายสำหรับคุณ! เมือง venice มีชื่อเสียงโด่งดังในด้าน สุดยอดสถาปัตยกรรม และยังมีหลายสถานที่โรแมนติก เช่น สะพานเก่าแก่ ponte dei sospiri, จตุรัส piazza san marco ที่ได้รับสมณานามว่า “ห้องจิตกรรมของยุโรป” (the - drawing room of europe) และคลองในตัวเมือง “canale grande” ทั้งหมดนี้จะสร้างความโรแมนติก ระดับหรูหรา ให้กับคนรัก และตัวคุณ

อันดับที่ 9. paris ประเทศฝรั่งเศส
เมืองปารีส มีสมญานามว่า “สวรรค์แห่งความโรแมนติก” (heaven of romantic) ดังที่ สถานที่แห่งนี้ เหมาะเป็นอย่างยิ่ง ที่คุณและคนรัก จะสารภาพ “รักนิรันด์” ระหว่างกันและกัน สิ่งที่น่าประทับใจในเมืองปารีส อย่างเช่น พิพิทธภัณฑ์ le lovore (พิพิทธภัณฑ์ ที่มีผู้เข้าเยี่ยมชมมากที่สุดในโลก) หอไอเฟล โรงแรม disney land resort ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป พิพิทธภัณฑ์ศิลปะ centre pompidou และสถานที่สวยงามอื่นๆ อีกมากมาย การไปเที่ยวกับคนรักที่ปารีส หากจัดสรรเวลาให้ดี ก็จะคุ้มค่ามาก และสถานที่แห่งนี้ จะเก็บความโรแมนติกอยู่ในใจของคุณไปอีกนานแสนนาน

อันดับที่ 10. colmar ประเทศฝรั่งเศส เมือง colmar
ถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีความโรแมนติก เมืองหนึ่ง ของประเทศฝรั่งเศส และเป็นสถานที่ ที่คู่รัก มักจะให้คำสัญญาในความรัก ระหว่างกันและกัน สิ่งที่น่าประทับใจในเมือง colmar ก็คือ ไร่องุ่นจำนวนมาก เคียงคู่ไปกับอุตสาหกรรมการผลิตไวน์ชั้นเยี่ยม และบรรยากาศที่สวยงาม สถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ ช่วยทำให้เมือง colmar เป็นอีกหนึ่งในสถานที่โรแมนติกในฝัน

แล้วสาวๆ อยากไปที่ไหนกันจ๊ะ??

ที่มา http://women.mthai.com

10 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยว ที่เป็นปริศนาบันลือโลก

รวบรวมเรื่องแปลกๆ น่าสนใจ กับ 10 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยว ที่เป็นปริศนาบันลือโลก มาฝาก

ภาพจาก www.telegraph.co.uk

อันดับ 1 : แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ (JACK THE RIPPER : LONDON, ENGLAND)
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1888 ที่ ตรอกไว้ท์แช็พเพล ในลอนดอน ประเภทอังกฤษ
มันคงเป็นปริศนาต่อไป และน่ากลัวกว่าที่คิดไว้เยอะ ปริศนาอันดับ 1 ที่ยังคงค้างคาใจเรา ฆาตกรต่อเนื่อง แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ อาชญากรระดับโลกที่ยังจับตัวไม่ได้ การสังหารอย่างโหดเหี้ยมของเหยื่อหลายรายติดๆกันถูกกล่าวขานถึง ย่านอีสต์เอนด์ของลอนดอนสร้างชื่อกระฉ่อนถึงความน่าสะพรึงกลัว ไม่เพียงแต่ไร้วี่แววของฆาตกร การพิสูจน์ หรือทดสอบด้านนิติวิทยาศาสตร์ยังไม่พัฒนาเท่าที่ควร จึงไม่มีเหตุผล หรือหลักฐานหนักแน่นในการมัดฆาตกร จากคดีฆาตกรรมที่โด่งดังทำให้มีผู้ต้องสงสัยเกิดขึ้นมากมาย หลักฐานสำคัญต่างๆ ถูกผุดขึ้นมาภายหลัง จะเป็นไปได้มั้ยที่จะสืบสาวหาฆาตกรตัวจริงได้ แม้ฆาตกรคนนั้นคงไม่มีชีวิตอยู่ให้จับแล้ว แต่ก็ยังดีที่ได้รู้ว่าฆาตกรตัวจริงผู้นั้นคือใคร?

เหมือนกับของบอสตัน ปัจจุบันเราสามารถไปท่องเที่ยวจุดเกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมที่นั้นได้อย่างสบายเลยแหละเพราะเขาเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว พร้อมที่ไกด์ชราที่มาเล่าความหลังสมัยยังเด็ก แถมเป็นตอนกลางคืนอีก โอ้มันสนุกอะไรเช่นนี้ อย่างกับบ้านผีสิง

อันดับ 2 : ยักษ์แห่งเกาะอีสเตอร์ (EASTER ISLAND GIANTS : EASTER ISLAND, CHILE)
เดินทางมาสัมผัสเกาะปริศนาที่โดดเดี่ยว เวิ้งว้างกลางมหาสมุทร รูปสลักหินลึกลับขนาดมหึมากว่า 800 รูป เรียงรายเต็มฝั่งทั่วเกาะ ทั้งที่ไม่มีคนอยู่ รูปสลักนี้มาจากไหน? สร้างขึ้นได้อย่างไร? อาจเป็นชาวโพลีนีเชียนชนพื้นเมืองที่มาตั้งรกรากเมื่อ ค.ศ.400 เป็นผู้สร้างขึ้น แต่ทำไมถึงสร้าง และอยู่บริเวณนี้ได้อย่างไรยังคงเป็นปริศนาดำมืด ด้วยวิวัฒนาการ ความรู้ของคนในสมัยอดีต เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะยกหินที่หนักกว่า 75 ตันมาไว้ตามชายฝั่งได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ถึงกระนั้นรูปปั้นเหล่านี้ก็ยังคงถูกทิ้งไว้เพื่อค้นหาคำตอบต่อไป
ปัจจุบันไม่รู้เขาจะเปิดหรือเปล่า แต่จากการเดาน่ะเขาคงไม่เปิดแล้วแหละเพราะรัฐบาลเขากลัวนักท่องเที่ยวมาทำความเสียหายบนเกาะนี้

อันดับ 3 : "คฤหาสน์วินเชสเตอร์" Mystery House 
คนที่อ่าน"Executional มหาสงครามออนไลน์ถล่มจักรวาล"คงร้องอ๋อกับสถานที่นี้
คฤหาสน์วินเชสเตอร์ ตั้งอยู่ที่ ซานโฮโซ แคลิฟอร์เนีย ประเทศอเมริกา ถูกสร้างในปีศตวรรษที่ 19 มันยังคงสภาพมานานเป็นเวลานานถึง 38 ปี และในปี 1974 ได้ถูกบันทึกเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ของประเทศ นอกจากในแง่การก่อสร้างอันพิสดารแล้วยังมีชื่อว่าเป็นบ้านผีสิงอีกด้วย
คฤหาสน์หลังนี้มีมูลค่า 5,500,000 ดอลล่าร์สหรัฐ มีห้องทั้งหมด 160 ห้อง สูง 4 ชั้น (เดิม 7) ห้องใต้ดินสองชั้น ประตู 950 บาน หน้าต่างประมาณหมื่นบาน เตาผิง 47 เตา บันได 40 ที่(376 ขั้น) และห้องจัดเลี้ยงอีก 2 ห้อง ว่ากันว่าซาร่า สร้างคฤหาสน์นี้ขึ้นเพราะผีบอกให้สร้างเอาไว้เป็นสถานที่จัดเลี้ยงผี และมีสิ่งที่แปลกก็เช่นบันไดที่ขึ้นไปโดยไม่สิ้นสุด ประตูห้องกลลวง หน้าต่างที่ไม่รู้จะสร้างมาทำไม ห้องกลไก ฯลฯ
ปัจจุบันนี้เปิดให้คนทั่วไปเข้าชม สำหรับทัวร์มีทั้งปกติในตอนกลางวันและทัวร์กลางคืน (ต้องมีไกด์นำทางกันหลง แต่ก็ระวังล่ะไกด์ก็เคยหลงมาแล้วเหมือนกัน)

อันดับ 4 : สัตว์ประหลาดแห่งล็อกเนส (THE LOCH NESS MONSTER : INVERNESS, SCOTLAND)
ทะเลสาบล็อกเนส ในสก็อตแลนด์
บนโลกนี้มีเรื่องให้พิสูจน์อีกมาก อย่างที่เรากำลังจะพาไปเยี่ยมเยือนสัตว์ประหลาด แห่งทะเลสาบล็อกเนส ในสก็อตแลนด์ เรื่องเล่าที่โด่งดังเกี่ยวกับสัตว์รูปร่างประหลาด เนสซี่ ตัวใหญ่ประมาณ 15 – 40 ฟุต มักโผล่ขึ้นมาให้เห็นเป็นครั้งคราว หลายคนสนใจติดตามจับภาพสัตว์ประหลาดตัวนี้ แล้วบางอย่างก็เป็นจริง มีภาพของวัตถุลึกลับเคลื่อนไหวอยู่ในทะเลสาบชื่อก้องนี้ แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นตัวอะไรกันแน่ ถึงอย่างไรคนหลายคนต่างเชื่อว่า เนสซี่ สัตว์ประหลาดแห่งล็อกเนส มีรูปร่างคล้ายไดโนเสาร์ คอยาว มีครีบ นั้นมีอยู่จริง แต่เราจะได้เห็นหรือไม่คงต้องขึ้นอยู่กับตัวเนสซี่เอง
ปัจจุบันเราสามารถไปท่องเที่ยวที่นั้นได้อย่างสบายเลยแหละเพราะเขาเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว พร้อมที่พักกับกล้องส่อง กล้องวงจรต่างๆ เผื่อถ่ายติดแล้วส่งรายการเรื่องจริงผ่านจอได้เลย

อันดับ 5 : นักฆ่ารัดคอแห่งบอสตัน (THE BOSTON STRANGLER : BOSTON, MA)
เมืองบอสตัน มลรัฐแมสซาซูเซตต์ สหรัฐอเมริกา
คดีแห่งปริศนา(เกิดขึ้น 1962-2001) ฆาตกรรมอำพราง เมื่อหลายปีก่อนถูกคลี่คลาย แต่เร็วๆนี้ถูกนำมาสอบสวนใหม่ ชนวนที่ฆาตกรที่จับได้จะใช่ฆาตกรตัวจริงหรือ?
มันฆาตกรระดับโลกอีกคนที่ถูกนำไปสร้างหนังมากที่สุดอีกคนหนึ่ง เหยื่อของมันส่วนมากเป็นหญิงชรา ผลงานของมันมีถึง 13 ศพ ทุกรายถูกทารุณกรรมทางเพศ บางครั้งโดนกัด ทุบด้วยของหนัก ถูกแทง และจัดศพแผ่หลาราวกับถ่ายหนังโป๊ ที่น่าสังเกตคือทุกศพโดนรัดคอด้วยของใช้ของผู้ตายเอง เช่น ถุงน่อง กางเกงในยืด ฯลฯ และมัดในรูปของหูกระต่ายวางที่ใต้คางเหยื่อ
คดีนี้ปิดฉากไปโดยตัวผู้รับสารภาพ อัลเบิร์ต เดอ ซาลโว แต่ต่อมาคดีฆาตกรรมปริศนาเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น เมื่อครอบครัวของหญิง 1 ในผู้ตายพบหลักฐานที่ส่อพิรุธ การรื้อคดีเป็นได้แค่การบังหน้าของตำรวจ ไม่มีความรับผิดชอบใดใดเพิ่มมากขึ้น เดอ ซาลโว จะใช่ฆาตกรตัวจริงหรือเปล่า หรือว่านักฆ่าจอมโหดผู้นี้ยังคงลอยนวลต่อไป จนบัดนี้มันยังคงเป็นปริศนา???

ปัจจุบันนี้เขายังมีการเปิดทัวร์ให้ไปเยี่ยมชมสถานที่การฆาตกรรมของเหยื่อทั้งหมดด้วยน่ะ ราคาก็ไม่แพง เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคอฆาตกรรม สืบสวน สอบสวนได้ดีเลยแหละ

อันดับ 6 : โอเรกอน วอร์เท็กซ์ (OREGON VORTEX : GOLD HILL, OREGON)
สถานที่นี้ตั้งอยู่ในอเมริกา(ไม่บอกไม่รู้น่ะเนี้ย) ปรากฏในเคโรเระโดยน่ะจะบอกให้
พบกับสถานที่ที่ไม่ลึกลับแต่มันเป็นภาพลวงตาที่หาคำตอบไม่ได้ แนวแม่เหล็กที่ไขว้กันอยู่ใต้พื้นดิน สนามพลังผิดปกติ เมื่อคุณเข้าไปยืนในนั้นจะรู้สึกเหมือนเป็นตัวประหลาด จุดที่แม่เหล็กไขว้ทับกัน คุณรู้สึกได้ถึงความกดดัน มันผลักกันและกัน และหมุนรอบๆจนคุณทนไม่ไหว การยืด หรือหดตัวอย่างน่าใจหาย ไม่นับสถานที่แห่งนี้ยังมี โรงนาปริศนา ที่ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด ตัวของคุณจะเอียง ลูกกอล์ฟกลิ้งขึ้นเนินเองได้ ไม้กวาดตั้งได้เอง จนคุณอยากออกจากประสบการณ์แปลกประหลาดเหล่านี้สู่ โลกแห่งความจริง ที่ทุกอย่างพิสูจน์ได้
ใครอยากไปสามารถติดต่อได้ที่ The Oregon Vortex
4303 Sardine Creek L Fork RD Gold Hill, OR 97525-9732 Voice: (541) 855-1543 Fax: (541) 855-5582

อันดับ 7 : ป้อมปราสาทสยองขวัญ (The Tower of London)
สถานที่นี้ตั้งอยู่ในลอนดอนครับ มีชื่อเสียงมาก ถามใครต่างรู้จัก
จัดได้ว่าเป็นสถานที่โบราณที่มีเรื่องสยองขวัญเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะที่นั้นเป็นสถานที่ ทั้งกษัตริย์ ราชินี เชื้อพระวงศ์ ตอลอดจนขุนนางชั้นสูงต่างล้วนจบชีวิตลงที่นี้มาก โดยการตัดคอ
และมีหลายคนเห็นผีหัวขาดบ้าง ไม่ขาดบ้างปรากฏในปราสาทนี้นับครั้งไม่ถ้วนเลยครับ
ในปัจจุบันเราก็สามารถเยี่ยมสถานที่ตั้งนี้ได้อย่างสบายใจ โชคดีอาจเจอผีก็ได้น่ะ

อันดับ 8 : สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า (BERMUDA TRIANGLE : ATLANTIC OCEAN)
ความลึกลับ อาถรรพณ์ และเรื่องจริงที่เกิดขึ้นยังคงกล่าวขานถึง สู่หายนะกับสถานที่แห่งนี้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า มฤตยูกลางมหาสมุทรแอตแลนติก โดยอาณาบริเวณนี้กินกว้างจากฟลอริด้า-เปอร์โต ริโก-เกาะเบอร์มิวด้า มันกินพื้นที่ตั้งห้าแสนตารางไมล์
สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้านี้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถหา คำอธิบายได้ เช่น เครื่องบิน เรือ ที่ผ่านบริเวณสามเหลี่ยมมรณะถูกดูดกลืนสูญหายไปอย่าง ไร้ร่องรอยโดย ไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่สภาพอากาศ และทุกอย่างเป็นปกติ ไม่มีข้อสรุป คำตอบ หรือข้ออ้างให้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีเพียงแต่ปริศนาที่ยังค้างคาใจ ผู้คนจนถึงปัจจุบัน
ถ้าใครจะไปพิสูจน์ก็แขวนพระดีๆ หน่อยล่ะ

อันดับ 9 : ภาพลายเส้นนาซคา (NAZCA LINES : NAZCA, PERU)

สถานที่ท่องเที่ยวที่ต่อไปต้องบินไปถึงทวีปอเมริกาใต้ ในทะเลทรายทางภาคใต้ ที่ราบสูงของประเทศเปรูครับ
ที่นั้นมีลายเส้นพิศวงกับปริศนาจากภาพแปลกๆ มากมาย และเป็นข้อกังขาของที่มาของเรื่องทั้งหมด รูปภาพสัตว์ขนาดใหญ่ สุนัข แมงมุม ปลาวาฬ ดอกไม้ ลิง เป็ด และนกกางปีก บนชายฝั่งทางใต้ของเปรู เป็นคำถามที่คนพื้นเมืองในอดีตสร้างขึ้นเพื่อผูกปมเรื่องให้ใคร่คิด บ้างเชื่อเรื่องทางเดินสู่แหล่งน้ำของชนเผ่าต่างๆ บ้างก็เชื่อมนุษย์ต่างดาวใช้สถานที่แห่งนี้ลงจอดยานบิน หรือมันอาจเป็นส่วนหนึ่งของปฏิทินดาราศาสตร์ที่ซับซ้อน แม้จะหาข้อสรุปไม่ได้ แต่สมมติฐานทั้งหมดก็ช่วยให้เราสนใจภาพวาดเหล่านั้นยิ่งขึ้น
แต่รีบๆ ไปเที่ยวหน่อยล่ะ เพราะปัจจุบันลายเส้นพวกนี้นับวันยิ่งจางหายไปเนื่องจากรอยล้อรถของพวกนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวสถานที่แห่งนี้ลบของเดิมที่มีมาไปจนเกือบหมดแล้ว

อันดับ 10 : มนุษย์หิมะ - เยติ (The Abominable Snowman)
สถานที่นี้ก็อยู่ทวีปเอเซีย ในหุบเขาหิมาลัย ในประเทศเยติ สถานที่นี้ได้มีการพบ อโบมิเนเบิ้ล สโนว์แมน หรือที่ชาวเซอร์ปาร์เรียกว่า เยติ มีประวัติอันยาวนานมากที่สุดในบรรดาเรื่องราวของมนุษย์วานรทั้งหมดของชาวภูเขา มันเข้าไปพัวพันอยู่ในความเพ้อฝัน ศาสนา ตำนาน เล่ห์ลวง และการค้า คนที่เคยเห็นมันเป็นบุคคลที่เชื่อถือได้ มูลของมันถูกนำมาวิเคราะห์ รอยเท้าถูกบันทึกภาพไว้และทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง มันถูกจัดให้เป็นตำนานโดยบันทึกภาพไว้และทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง มันถูกจัดให้เป็นตำนานโดยนักบุกเบิกในปลายยุค 1950 และ 1960 แต่ตอนนี้หลักฐานกากรดำรงอยู่ของมันดูเหมือนจะหนักแน่นขึ้นทุกวัน
นอกจากนั้นมันยังเป็นอสูรกายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเทือกเขาหิมาลัย เป็นตำนานในหมู่ของชาวเนปาล โดยเฉพาะชาวเชอร์ปาผู้ที่อาศัยอยู่บนภูเขาสูง ณ วัดแห่งหนึ่งในร่มเงาของเทือกเขา เอเวอร์เรส ท่านเจ้าอาวาสบอกว่ามักจะมีฝูงเยติมาเยือนทางวันอยู่เสมอในแต่ละปี
แต่ถ้าใครจะไปคงต้องรอหน่อยล่ะเพราะตอนนี้ประเทศเนปาลเป็นประเทศปิดแล้ว เพราะการยึดอำนาจของกษัตริย์ คงรออีกนานแหละกว่าจะเปิดประเทศ

วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2558

รู้ไว้ก่อนไป เดินป่าหน้าฝน

ฤดูฝนของประเทศไทยอยู่ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงปลายเดือนตุลาคม ใกล้จะเข้าเดือนห้า หวังว่าฝนจะมาให้หายร้อนจริงๆ นะ การเดินป่าในช่วงหน้าฝนจะไม่ค่อยเหนื่อยง่ายเพราะอากาศไม่ร้อนจัด แต่สิ่งที่ต้องพึงระวังก็ควร รู้ไว้ก่อนไป เดินป่าหน้าฝน

โดยเฉพาะในป่าดงดิบชื้นนั้นจะมี “ทาก” ชูคอสลอน คอยดูดเลือดเหยื่อ แต่ทั้งหมดนั้นอาจเปรียบได้กับสีสันชีวิตการท่องไพร ที่ต้องมีการฝ่าฟันความยากลำบากไปให้ได้เพื่อประสบการณ์ชีวิตอันยิ่งใหญ่ ถ้าจะท่องป่าหน้าฝนให้สนุกก็ต้องเตรียมพร้อมให้ดีตามคำแนะนำดังต่อไปนี้

ภาพจาก www.tomwilson.com

1. กันเปียก
ควรพกฟลายชีท (ผ้าขึงเป็นหลังคากันน้ำฝน) ไปด้วยเสมอ จะช่วยให้เต็นท์ไม่ต้องเปียกปอน ควรมีเสื้อกันฝนที่มีน้ำหนักเบาติดไปด้วย อาจใช้ประโยชน์เป็นฟลายชีทได้ด้วยในยามจำเป็น เสื้อผ้าข้าวของบางอย่างควรใส่ถุงพลาสติกไว้ชั้นหนึ่งก่อนบรรจุลงเป้ สำหรับรองเท้านั้นถ้าหาชนิดที่กันน้ำได้ก็จะดีมาก โดยวัสดุที่เรียกว่า กอร์เท็กซ์ (Gore-Tex) นั้นกันน้ำได้ 100 เปอร์เซ็นต์ จะช่วยให้เท้าไม่อับชื้น เดินป่าได้อย่างสบายใจ

2. แห้งเร็ว
ควรเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย เมื่อเปียกแล้วต้องแห้งเร็ว เช่น ผ้าใยสังเคราะห์ต่างๆ ส่วนพวกผ้าฝ้ายไม่ควรใช้อย่างยิ่งเพราะอมน้ำมากและแห้งช้า

3. เลือกทำเล
การกางเต็นท์กลางป่าควรดูทิศทางและทำเลที่จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ตนเอง เช่น ไม่กางเต็นท์บริเวณที่อาจเป็นทางน้ำไหล ไม่กางเต็นท์ใต้ต้นไม้ใหญ่เพราะอาจมีกิ่งไม้หักหล่นใส่ นอกจากนี้ก็ควรกางฟลายชีทและขุดร่องระบายน้ำรอบตัวเต็นท์ไว้ด้วย

4. ระวัง
ในฤดูฝนสัตว์ป่ามีพิษต่างๆ เช่น แมงป่อง ตะขาบ งู ฯลฯ มักจะคลานไปมาหาที่แห้งๆ ตามในเต็นท์ ในถุงนอน หรือในรองเท้าที่ไม่ได้เก็บไว้อย่างมิดชิดพอ ก่อนสวมใส่ใช้งานควรตรวจตราสิ่งเหล่านี้ให้ดี ถ้ามียากันแมลงหรือปูนขาวให้โรยไว้รอบเต็นท์ ก็อาจกันแมลงพวกนี้ได้

เมื่อท่องเที่ยวกันอย่างสนุกสนานและได้รับความรู้แล้ว ก็อย่าลืมรักษาธรรมชาติไว้ให้สวยงามดังเดิม เหมือนก่อนที่เราเข้าไปสัมผัสด้วยจะเป็นการดีไม่น้อยเลย

มาเที่ยวป่าหน้าฝนต้องมีสติ
หน้าฝนมาเยือน อันตรายก็แฝงกายมาเยี่ยมได้หากไม่ระวัง สติคือสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องมีไว้กับตัวเสมอ จะเล่นน้ำตกก็อย่าโลดโผนนัก ไปไหนก็ควรไปเป้นกลุ่ม หากจะเดินป่าก็ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบด้วย เพราะการหลงป่าหรือประสบอุบัติเหตุ เช่น ลื่นหกล้มหรือได้รับอันตรายจากสัตว์ป่า รวมถึงสายน้ำป่าที่ไม่รู้จะมาเมื่อใดอาจเกิดขึ้นได้เสมอ

ที่มา : สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
และ Travel.mthai.com

แนะนำวิธีเตรียมตัวให้พร้อม เดินทางท่องเที่ยวให้สนุก

เรื่องการโน้มดอกซากุระลงมาถ่ายรูปคู่กับหน้าตัวเองของดาราไทย ทำให้คนไทยส่วนใหญ่เริ่มตื่นตัวกับเรื่องของมารยาทในการท่องเที่ยวมากขึ้น ดังนั้นก่อนไปเที่ยวไหน นักเดินทางมือใหม่ควรศึกษาและเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อให้เที่ยวอย่างมีความสุขและสนุกสนาน จะมีอะไรบ้าง ลองอ่าน
 

ภาพจาก https://www.flickr.com/photos/mamun/5623744892/


ความสนุกสนานในการเดินทางนั้นเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น

- หาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ ไว้ล่วงหน้า

- เมื่อเดินทางไปกับกรุ๊ปทัวร์  ควรระวังเรื่องเวลานัดหมายที่จุดนัดพบ  ตกลงกันให้เรียบร้อยว่าจะเน้นชมอะไร  เพราะจุดมุ่งหมายและนิยามของคำว่า “พักผ่อน” นั้นอาจแตกต่างกัน

- ศึกษาวัฒนธรรมท้องถิ่นและให้ความเคารพสถานที่  หัดพูดคำง่ายๆในภาษาท้องถิ่นบ้าง  เพื่อจะได้ทักทาย  สั่งอาหาร  หรือขอความช่วยเหลือยามจำเป็น

- อย่าเก็บของมีค่า  เงินสด  รวมถึงเอกสารสำคัญไว้ที่เดียวกันหมด  ควรแยกเก็บไว้กระเป๋าอื่นบ้าง  และควรเก็บของมีค่าไว้ในกระเป๋าที่อยู่กับตัวเท่านั้น

- เมื่อไปเที่ยวกันหลายคนด้วยรถยนต์ส่วนตัว ควรตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายให้เรียบร้อย เช่น ใครจะออกค่าน้ำมัน  ค่าผ่านทาง  ค่าที่พัก  หรือถ้าจะลงขันกันก็ควรตกลงกันว่าจะให้ใครเป็นคนถือเงิน

- อย่าอายที่จะถามทางถ้าตัวเองหลงทาง  และอย่าลืมพกแผนที่ติดตัวไว้ด้วย

- เตรียมเสบียงเผื่อไว้  ในกรณีเดินทางไปยังที่ที่มีแต่อาหารท้องถิ่นที่เราไม่คุ้นเคย

- รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา  พยายามให้อภัยหากเกิดปัญหาเพราะเหตุสุดวิสัย จะได้ไม่บั่นทอนความสนุกในการเดินทาง

- มีมารยาทและวินัย  เมื่อต้องเดินทางเป็นหมู่คณะ  การเดินทางจะได้ราบรื่นขึ้น

- อย่าลืมนำยาสามัญประจำบ้าน หรือยาประจำตัว  ครีมกันแดด  แว่นตากันแดด  และร่มติดไปด้วย

- เมื่อเดินทางไปต่างประเทศ  ควรสอบถามกับสถานทูตหรือสถานกงสุลล่วงหน้า ว่าอะไรเป็นของต้องห้ามที่ห้ามนำเข้าประเทศบ้าง  เพราะบางประเทศอาจมีบทลงโทษที่รุนแรง

- อย่านำสิ่งของไม่สมควรติดตัวขึ้นเครื่องบิน  เช่น  กรรไกร  มีด  หรือของที่ต้องสงสัยว่าจะใช้เป็นอาวุธได้

- อย่าใช้เงินเพลินจนเกลี้ยงกระเป๋า  ควรสำรองไว้เผื่อต้องจ่ายค่าภาษีสนามบินด้วย (ในกรณีที่ต้องจ่ายต่างหาก ณ สนามบิน) หรือในกรณีเครื่องดีเลย์  อาจต้องอยู่สนามบินนานขึ้น  หรือต้องค้างคืน

แนะนำ 5 สถานที่ท่องเที่ยว ทริปวันหยุดยาว

หยุดยาวอีกแล้ววว... วันหยุดยาวๆ แบบนี้ จะมีอะไรดีไปกว่าการไปเที่ยวให้หายเครียด และจะยิ่งดีกว่านี้อีก ถ้าการเที่ยวครั้งนี้เป็นการช่วยชาติไทยของเราด้วย


ภาพจาก Travel.mthai.com

1. ไหว้พระนั่งเรื่อ เที่ยวเกาะเกร็ด

เกาะเกร็ด เป็นหมู่บ้าน OTOP ต้นแบบภาคกลาง (Knowledge-based Village Cluster) เป็นแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น และเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ในด้านการผลิตสินค้าหัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผาที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวไทยมอญที่ได้สืบทอดกันมายาวนาน และการทำขนมมงคล

2. ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา
หากเพื่อนคนไหนงบน้อย หรือไม่อยากไปเที่ยวไหนไกลๆ แนะนำให้ขับรถไปเที่ยวเมืองพัทยากันดีกว่าค่ะ ลองมาดูแพลนเที่ยว พัทยากัน ถ้ามาถึงพัทยาแล้ว จุดท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ ตลาดน้ำ 4 ภาค ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท

3.เพลินวาน หัวหิน
เพลินวานคือ... “ศูนย์รวมความสุข สถานที่... หยุดเวลาในอดีตไว้ เพื่อเล่าขานเรื่องราวมากมายของวิถีหัวหินกาลก่อน ...สู่กาลปัจจุบัน” เยี่ยมชม "เพลินวาน" หมู่บ้านย้อนยุคมีชีวิต ชิมรสอาหาร-ขนมอร่อย เลือกซื้อเสื้อผ้า ดูหนังกลางแปลง สัมผัสบรรยากาศแห่งอดีต

 4.สามพันโบก แกรนด์แคนยอนเมืองสยาม
แก่งสามพันโบก เริ่มเป็นที่รู้จักและปรากฎสู่สายตานักท่องเที่ยว เมื่อโฆษณาของ ท.ท.ท. ชุด พี่เบิรด เริ่มออกฉายภาพ สถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นฉากจบของโฆษณาชุดนี้จึงกลายเป็นคำถามว่า ที่ไหนกัน เมืองไทยมีที่แห่งนี้ด้วยเหรอนับแต่นั้นมา แก่งสามพันโบก จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ที่กำลังเ็้นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง

5. เดินป่า เล่นน้ำตก ส่องสัตว์ ที่เขาใหญ่
ช่วงหน้าฝน น้ำตกกำลังมีน้ำ ป่ากำลังเขียวสดใส ก็เลยอยากขอแนะนำไปเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ดูน้ำตกที่เขาใหญ่ นอกจากบรรยากาศจะดีแล้ว การเดินทางจาก กทม.ยังสะดวก ไม่ไกลเกินไป แถมยังมีค่าใช้จ่ายที่ไม่แพงอีกด้วย