วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2558

เรื่องน่ารู้ วัฒนธรรมการดื่มรอบโลก

อย่างที่เรารู้กันดีว่าในโลกนี้มีประเพณีและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันมากมาย รวมทั้งเรื่องการดื่มก็แตกต่างกันไปตามแต่วัฒนธรรมของแต่ละประเทศเช่นกัน ... ผู้คนจากแต่ละประเทศก็มีช่วงเวลาและเหตุผลของการดื่มที่แตกต่างกันไป


ภาพจาก sesgrancanaria.com

ในประเทศจีน เราจะเห็นได้ว่าผู้คนจะดื่มการเยอะเป็นพิเศษช่วงหนึ่งอาทิตย์ก่อนปีใหม่ นี่ก็เนื่องมาจากเพื่อเฉลิมฉลองปีใหม่ตามประเพณี การดื่มในช่วงนี้จะเป็นการดื่มกินระหว่างเพื่อนและครอบครัวโดยไม่การจำกัดประเภทของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ในประเทศฝรั่งเศสจะนิยมดื่มไวน์แดงกับอาหารเย็น ด้วยความที่เป็นผู้ผลิตไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ฝรั่งเศสนั้นเคร่งครัดในเรื่องธรรมเนียมการดื่มไวน์มากๆ ว่ากันว่าไวน์นั้นดีต่อหัวใจจึงเหมาะมากที่จะดื่มไวน์ควบคู่ไปกับการรับประทานอาหาร! ไวน์ขาวก็เป็นที่นิยมเช่นกันในฝั่งเศส ตามธรรมเนียมฝรั่งเศสแล้วเราจะดื่มไวน์ขาวหวานๆกับเนื้อสีขาว และดื่มไวน์แดงฝาดๆกับเนื้อสีแดง

เบียร์ก็เป็นเครื่องดื่มอีกประเภทที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศในแถบยุโรป โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนเพราะเบียร์นั้นราคาไม่แพงและหาซื้อได้ง่าย จากปริมาณการดื่มของเหล่าเยาวชนนี้ได้รับการขนานนามว่า 'binge drinking'! เพราะไม่มีกำหนดเวลาหรือเหตุผลในการดื่ม และเมื่อพวกเขาดื่มแต่ละครั้งก็จะดื่มในปริมาณที่เยอะมากๆ

เมื่อได้ยินชื่อประเทศรัสเซียก็จะนึกนึงเครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมอย่าง วอดก้า ขึ้นมาทันที การดื่มวอดก้านั้นถือเป็นเรื่องปกติและดื่มได้เพียวๆโดยไม่จำเป็นต้องผสมกับเครื่องดื่มใดๆ บ้างก็ว่าที่วอดก้าเป็นที่นิยมมากในรัสเซียก็เพราะอากาศที่หนาวเย็นจับขั้วหัวใจนั่นเอง! ในรัสเซียนั้นคุณจะสามารถดื่มวอดก้าเวลาไหนก็ได้ เพราะว่ากันว่ามันช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น และตอนนี้ความนิยมในวอดก้าก็แพร่ไปยังประเทศต่างๆทั่วโลกโดยเฉพาะในกลุ่มของเยาวชน

เมื่อเวลาผ่านไป ประเพณีและวัฒนธรรมการดื่มก็เริ่มจะกลืนกันและก็คงจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามกาลเวลา

ที่มา http://www.englishfirst.co.th/

9 สถานที่ท่องเที่ยว ที่คาดว่าชาวไทยจะนิยมไปเที่ยว ในปี 2558

สำหรับจุดหมายปลายทาง 9 อันดับที่คาดการณ์ว่าจะเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยในปี 2558 มีดังนี้
ภาพจาก www.euroboatcharter.com

1. นิวแคลิโดเนีย (New Caledonia) : หมู่เกาะเล็กๆ อันไกลโพ้นห่างจากชายฝั่งทางตะวันออกของออสเตรเลีย 2,000 ไมล์ และมีประชากรเพียง 246,000 คนเท่านั้น นักเดินทางสามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติที่งดงามด้วยแพ็คเกจท่องเที่ยวราคาย่อมเยาจนกระทั่งถึงกลางทศวรรษที่ 20 เพราะหลังจากเหตุการณ์เศรษฐกิจซบเซาครั้งใหญ่ อดีตอาณานิคมของประเทศฝรั่งเศสนี้กำลังอยู่ในการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่จะทำให้กลับมาเป็นจุดหมายปลายทางที่มีอิทธิพลอีกแห่งหนึ่งในปี 2558 และเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของนักเดินทาง รองมาจากฟิจิและตาฮิติ

2. ไอซ์แลนด์ : Interstellar หนังไซไฟฟอร์มยักษ์ของฮอลลีวูดประจำปี 2557 ได้ถ่ายทำหลายฉากที่นี่ ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกหลงใหลในทัศนียภาพอันงดงามตระการตาของเกาะแห่งนี้ ทิวทัศน์ที่สวยงามของไอซ์แลนด์นั้น ประกอบไปด้วยหนึ่งในภูเขาไฟที่ยังปะทุมากที่สุดในโลก บ่อน้ำพุร้อน รวมถึงธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ซึ่งเป็นฉากนำในซีรีย์สุดฮิตของช่อง HBO อย่าง Game of Thrones และทิวทัศน์ที่งดงามเพิ่งได้รับการเผยแพร่ผ่านภาพยนตร์ฮอลลีวูดถึง 2 เรื่องได้แก่ The Secret Life of Walter Mitty และ Thor นอกจากนี้นักท่องเที่ยวหลายพันคนเดินทางมายังเกาะแห่งนี้ เพื่อชมปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ซึ่งเกิดจากการสะท้อนแสงของดวงอาทิตย์ คือ แสงออโรร่า หรือแสงขั้วโลกเหนืออันสวยงามตระการตา

3. โซล : ความต้องการของนักเดินทางที่อยากจะสัมผัสวัฒนธรรมเกาหลียังคงแรงต่อเนื่องไม่มีหยุด นับตั้งแต่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวไทย คลั่งไคล้กับเพลง Gangnam Style เมื่อ 2 ปีก่อน โซลยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยือน นอกจากนี้โซลมีโรงแรมราคาประหยัดเพิ่มขึ้นมากมายเพื่อรองรับนักเดินทาง พร้อมทั้งยังมีร้านปลอดภาษีหลายแห่ง ซึ่งที่เป็นที่โปรดปรานของนักท่องเที่ยวชาวจีน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมโซลถึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ฮอตฮิตประจำปี 2558

4. ฟอร์ต ลอเดอร์เดล : เมืองอันสดใสแห่งนี้ดึงดูดนักเดินทาง โดยเฉพาะเหล่าหนุ่มสาวในช่วงปิดเทอม ตั้งแต่ช่วงปี 2500 อย่างไรก็ตามเมืองแห่งนี้กำลังพัฒนาและเปลี่ยนแปลงเพื่อดึงดูดกลุ่มนักเดินทางวัยทำงานหรือผู้ใหญ่ และได้รับการคาดการณ์ว่าจะเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวไทยในปี 2558 โดยจะมีการลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ประกอบด้วยการทุ่มเงิน 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อขยายสนามบิน สถานีรถไฟความเร็วสูงแห่งใหม่ และการสร้างที่พักอันหรูหรามากมาย
 

ภาพจาก sites.dartmouth.edu

5. นิการากัว (Nicaragua) : หลังจากได้รับการคาดการณ์มาเป็นเวลาหลายปีว่าจะก้าวมาเป็นคอสต้าริก้าแห่งใหม่ ในที่สุดนิการากัวก็ขึ้นแท่นสถานที่น่าท่องเที่ยวประจำปี 2558 ผืนป่าที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นแหล่งกบดานของกลุ่มโจรติดอาวุธ วันนี้ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่สำคัญ นักเดินทางที่มาเยือนจะได้พบกับผืนป่ามากมาย ภูเขาไฟที่สวยงาม สถาปัตยกรรมอันน่าตรึงใจ และชายหาดที่ยังคงความงามตามธรรมชาติ รวมถึงการเติบโตของโรงแรมระดับ 5 ดาว ตอนนี้นิการากัวกลายเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ปลอดภัยและคุ้มค่าแก่การมาเยือนมากที่สุดในเขตลาตินอเมริกา พร้อมทั้งมีโรงแรมและร้านอาหารระดับโลกอีกด้วย

6. ภูฏาน : ความห่างไกลอาจเป็นคำนิยามที่เข้ากับความมหัศจรรย์ของภูฏานได้ดีที่สุด แต่ด้วยเส้นทางการบินที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ประเทศที่อยู่ท่ามกลางเทือกเขาหิมาลัยแห่งนี้ ทะยานสู่สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปมากที่สุดแห่งหนึ่งประจำปี 2558 นอกจากนั้นภูฏานยังเปิดโอกาสให้นักเดินทางผจญภัยท่องโลกอย่างตื่นเต้นเร้าใจ พร้อมทั้งยังมีรัฐบาลที่ให้ความสำคัญและเอาใจใส่ความสุขของประชาชนอย่างสม่ำเสมอ พอๆ กับเศรษฐกิจของประเทศ แล้วคุณจะได้ไขความลับของภูฏานว่าเพราะเหตุใดประเทศนี้เป็นจุดหมายปลายทางที่ทั่วโลกสนใจ

7. บราซิล : หลังจากที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2557 บราซิลกลายเป็นจุดหมายปลายทางหลักบนแผนที่ของชาวอังกฤษ อย่างไรก็ตามหากเป็นเหมือนกรณีลอนดอนที่เพิ่งจัดงานโอลิมปิกไปในปี 2555 การท่องเที่ยวจะตื่นตัวหลังจากผ่านการแข่งขันไป1-2 ปี หลังจากราคาตั๋วเครื่องบินและโรงแรมลดลง แต่การลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐานยังคงมีให้เห็นอยู่

8. โอกินาว่า : หมู่เกาะเขตร้อนที่เรียงรายเป็นระยะทางกว่า 1,000 กิโลเมตร จากทะเลจีนใต้ไปสู่ปลายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น เกือบถึงไต้หวัน โอกินาว่าเป็นหมู่เกาะที่เปรียบเสมือนสรวงสวรรค์ของคนท้องถิ่น ด้วยโรงแรมหรูหรา แหล่งดำน้ำระดับโลก ป่าไม้อันสมบูรณ์ ชายหาดสีขาวบริสุทธิ์ แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมเชิงมรดกโลกของ UNESCO และวัฒนธรรมกับอาหารที่สืบทอดกันมาแต่โบราณนั้น จะทำให้โอกินาว่าดึงดูดนักผจญภัยทั่วโลกให้มาเยือนอีกแห่งหนึ่ง

9. ไทเป ประเทศไต้หวัน : ด้วยจำนวนการค้นหาตั๋วเครื่องบินเฉลี่ยจากทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 56 ต่อปีนั้น ทำให้ไทเปเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับเหล่านักช็อปตัวยงมากยิ่งขึ้นไปอีกในปี 2558 ซึ่งแตกต่างจากสมัยก่อนเป็นอย่างมาก ปัจจุบันไทเปกำลังปรับปรุงเมืองให้เต็มไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะ ความทันสมัย แหล่งช็อปปิ้งอันหรูหรา และความหลากหลายของโรงแรมใหม่ๆ ที่มีตั้งแต่โรงแรมบูทีคเก๋ๆ ไปจนถึงโรงแรมหรูหราระดับนานาชาติ ซึ่งคาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยที่กำลังมองหาจุดหมายปลายทางอันทันสมัย

การท่องเที่ยว กับ บางสิ่ง ที่หายไป

นักเดินทางรุ่นเก๋าหลายคนคงเคยนึกเปรียบเทียบรูปแบบการท่องเที่ยวสมัยก่อนและสมัยนี้ว่า ในทศวรรษนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการเดินทางมากมาย ซึ่งช่วยให้การเตรียมตัวและวางแผนการเดินทางง่ายขึ้น เช่นสมาร์ทโฟนและอินเตอร์เน็ต แน่นอนว่า เมื่อมีสิ่งใหม่ๆ เข้ามาก็จะทำให้หลายสิ่งที่เราคุ้นชินค่อยๆ หายไป เช่น โปสการ์ด


ก่อนหน้านี้เมื่อไปเที่ยวที่ไหน หลายคนมักชอบส่งโปสการ์ดกลับมาหาตัวเองหรือส่งไปให้เพื่อนฝูง แต่เมื่อทุกคนใช้สมาร์ทโฟน พวกเขาก็จะเลือกส่งข้อความ โพสต์รูป วิดีโอในเฟซบุค ทวิตเตอร์และไลน์มากกว่าเพราะสะดวกและรวดเร็ว สื่อในสหรัฐเคยรายงานว่า จำนวนโปสการ์ดที่ส่งในสหรัฐน้อยลงเรื่อยๆ

อุปกรณ์ประกอบการท่องเที่ยวที่กำลังหายไปอีกอย่างคือ ไกค์บุค เพราะเดี๋ยวนี้ นักท่องเที่ยวสามารถหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตในสมาร์ทโฟนได้มากมาย ยังรวมถึงโพสต์และข้อแนะนำต่างๆ ของคนที่เคยไปที่ๆ เราต้องการไป ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราตัดสินใจได้เป็นอย่างดี แต่บางคนก็อาจจะเถียงว่า การเดินเปิดไกค์บุคไปในที่ต่างๆ จะทำให้ได้อรรถรสในการเดินทางอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ถ้าเราทำไกค์บุคหายหรือตกในระหว่างเดินทางก็คงไม่เสียดายเท่าทำสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตหาย

อีกอย่างที่กำลังหายไปคือ อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ เราๆ ท่าน คงจำกันได้ดีว่า เวลาไปเที่ยวที่ไหน ไม่ว่าในหรือต่างประเทศ พวกเราใช้เวลาหลังจากท่องเที่ยวที่นี่เพื่อส่งอีเมลล์พร้อมแนบรูปส่งไปให้ที่บ้านและเพื่อนฝูง ก่อนหน้านี้ใครไปไหนแล้วส่งอีเมลล์กลับหาที่บ้านก็ดูโก้เก๋ อินเทรนด์มากแล้ว แต่ในสมัยนี้ แต่ละสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรมและที่พักเกือบจะทุกแห่งมีบริการ wifi ให้ผู้เข้าพักและนักท่องเที่ยวอย่างไม่อั้น ว่ากันว่า wifi ในไทยและเวียดนามหาง่ายเหมือนร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทาง พวกเราเองก็มีอุปกรณ์พร้อม ไม่ว่าโทรศัพท์ แล็ปท็อป แท็บเล็ตหลากหลายแบรนด์ ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาอินเตอร์เน็ตคาเฟ่อีกต่อไป ร้านพวกนี้ก็ต่างพากันทยอยปิดไปหลายประเทศเช่น โมรอคโค อินเดีย จีนและอังกฤษ

นักท่องเที่ยวหลายคนนิยมพกนาฬิกาปลุกไปท่องเที่ยวด้วย เพราะประเทศที่ไปอาจมีเวลาที่แตกต่างกันมากกับประเทศของตนเอง แต่เมื่อมีสมาร์ทโฟนและแอพพลิเคชั่นต่างๆ นาฬิกาปลุกก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป เพราะมันมีทั้งนาฬิกาปลุก นาฬิกาที่บอกเวลาในหลายๆ ประเทศพร้อมกัน และที่สำคัญนักท่องเที่ยวสามารถบันทึกแผนการแต่ละวันในสมาร์ทโฟนได้ด้วย แอพฯ บางตัวสามารถส่งเสียงเตือนได้อีกต่างหาก แต่พวกเราคงเคยมีประสบการณ์ว่า ตั้งนาฬิกาในโทรศัพท์ให้ปลุก แต่ก็ไม่ปลุกเพราะอาจจะตั้งวิธีผิดวิธีหรือตั้งเช้าเป็นบ่าย บ่ายเป็นเช้าก็ได้เหมือนกับตั้งนาฬิกาปลุกให้ปลุก แต่ไม่ปลุกเพราะถ่านหมด

การหายไปของแผนที่ก็เป็นผลมาจากอินเตอร์เน็ตเช่นเดียวกัน ก่อนหน้านี้เวลาไปที่ใดนักท่องเที่ยวก็จะตรงรี่ไปร้านหนังสือ หรือศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวก่อนเพื่อขอแผนที่แล้วจึงค่อยวางแผนจะไปที่ใด แต่ปัจจุบัน พวกเราวางแผนท่องเที่ยวอย่างละเอียดได้ก่อนหน้ามาถึงจากแผนที่ออนไลน์และจีพีเอส ผู้ผลิตแผนที่ฉบับกระดาษต่างพากันเปลี่ยนธุรกิจมาทำทางออนไลน์ เช่น ฝ่ายแผนที่และสำรวจของอังกฤษซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับการทำแผนที่รายงานว่า การขายแผนที่ลดลงประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะคนหันไปใช้แผนที่ออนไลน์และจีพีเอสแทน ตอนนี้คงไม่ค่อยได้เห็นภาพนักท่องเที่ยวเดินถือแผนที่ชี้โบ๊ชี้เบ๊กันอีกแล้วแน่ๆ

ในยุคดิจิทัลนี้ เราคงเห็นร้านขายอัลบั้มรูปค่อยๆ หายไป เด็กๆ รุ่นใหม่อาจไม่รู้จักอัลบั้มรูปอีกต่อไปเพราะพวกเขามีทั้งเฟซบุค อินสตาแกรมและอัลบั้มรูปออนไลน์ที่สามารถเก็บรูปได้ไม่จำกัด นอกจากนี้ ตอนนี้นักท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องพกเงินไปมากๆ ซึ่งเสี่ยงกับการหายหรือโดนปล้น เพราะตอนนี้การทำธุรกรรมด้านการเงินสามารถติดต่อถึงกันได้ทั่วโลก พวกเขาสามารถใช้บัตรเครดิตหรือเบิกเงินจากตู้เอทีเอ็มในทุกที่ที่เดินทางไป

ที่มา Bangkokbiznews.com

ราคา .. ต้องมาก่อน ตัวเลือกแรกของการจองเครื่องบิน

คุณๆ ลองคิดไว้ในใจ ว่า "ระหว่างสิทธิพิเศษในการใช้ห้องน้ำ กับ ราคาที่ถูกกว่า คุณจะเลือกอะไร?"

ถ้าตอบว่า "ราคา" คุณคือคนส่วนใหญ่ของผลการสำรวจทัศนคติของนักท่องเที่ยวในเอเชียแปซิฟิกที่มีต่อสายการบินต้นทุนต่ำ ที่ฝ่าย Global Tour & Transport ของ Expedia ได้จัดทำขึ้นและได้เปิดเผยผลสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้ว่า "94% จากผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมด พร้อมสละสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย" และเมื่อพิจารณาถึงการเติบโตของสายการบินต้นทุนต่ำในเอเชียแปซิฟิกแล้ว คาดว่าจะมีการให้บริการเพิ่มขึ้น 9.5% เมื่อเทียบรายปีในเดือนมีนาคม 2015 ซึ่งนับเป็นข่าวดีสำหรับนักท่องเที่ยว


ภาพจาก news.gtp.gr

ทั้งนี้ดัชนีสายการบินต้นทุนต่ำประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกปี 2015 ของ Expedia ได้สำรวจความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวราว 3,200 คนในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง อินเดีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และไต้หวัน โดยถือเป็นการต่อยอดจากดัชนีสายการบินต้นทุนต่ำประจำภูมิภาคยุโรปตะวันตกปี 2014 ซึ่งศึกษาตัวเลือกของนักท่องเที่ยวระหว่างค่าโดยสารและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ

การสำรวจดังกล่าวได้รวบรวมทัศนคติของนักท่องเที่ยวที่มีต่อบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกของสายการบินต้นทุนต่ำเทียบกับสายการบินทั่วไป รวมถึงสิ่งที่นักท่องเที่ยวยอมสละเพื่อแลกกับการลดค่าโดยสาร พร้อมกับเผยว่าผู้โดยสารนำเงินที่ประหยัดได้ไปใช้ทำอะไร สำหรับปัจจัยที่นักท่องเที่ยวใช้พิจารณาเลือกสายการบินต้นทุนต่ำนั้น ผลสำรวจพบว่าปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกสายการบินมากที่สุดคือ ประวัติความปลอดภัยของสายการบิน

นักท่องเที่ยวเพศชาย มีแนวโน้มมากกว่าเพศหญิงเล็กน้อยในการสละสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างหมอนและผ้าห่ม ฟรีค่าบริการฝากสัมภาระลงใต้ท้องเครื่อง และสิทธิพิเศษในการใช้ห้องน้ำ เพื่อแลกกับการลดค่าโดยสาร

และนอกเหนือจากปัจจัยเรื่องเพศแล้วยังมีปัจจัยเรื่องอายุด้วย โดยผู้โดยสารอายุน้อย (ต่ำกว่า 35 ปี) เชื่อว่าการสละพื้นที่วางขาและสิทธิ์ในการนำกระเป๋าสัมภาระขึ้นเครื่องเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุด ส่วนผู้โดยสารที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไปเลือกที่จะสละบริการอาหารแบบฟูลมีลเพื่อประหยัดค่าตั๋ว

นักท่องเที่ยวในเอเชียแปซิฟิกเกินครึ่งหนึ่ง (56%) เต็มใจสละความบันเทิงบนเครื่องบินเพื่อประหยัดค่าตั๋ว ตามมาด้วยบริการอาหารแบบฟูลมีล (49%) หมอนและผ้าห่ม (48%) ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกที่เต็มใจสละน้อยที่สุดได้แก่ พื้นที่วางขา สิทธิพิเศษในการใช้ห้องน้ำ และสิทธิ์ในการนำกระเป๋าขึ้นเครื่อง

ที่มา Bangkokbiznews.com

10 คำโกหกของ “ปารีส”


เพียงแว่บแรกที่ได้ยลโฉมความงดงามอันน่าตะลึง สวนสวยปริศนาและขนมสุดแสนอร่อยของดินแดนน้ำหอมแห่งนี้ หลายคนถึงกับพร่ำเพ้อว่าเมืองอะไรช่างโรแมนติกเสียจริงๆ แต่ถ้าพูดกันจริงๆ แล้ว หลายคนที่เคยไปเที่ยวปารีสมา กลับพบว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่คิดทุกอย่าง ซึ่งทำให้สงสัยว่าทำไมทุกคนพยายามกระจายข่าวลือที่เหลือเชื่อเกี่ยวกับปารีสว่ามันเป็นทุกอย่างของชีวิต



ภาพจาก hdwallsource.com

มันถึงเวลาที่จะต้องพูดความจริงกันแล้ว จงอย่าไปเชื่อคำโกหกที่พูดถึงปารีสกันต่อๆ มาว่า

“ไม่มีอะไรจะสวยงามไปกว่าการได้ไปเยือนหอไอเฟล” ข้อมูลที่ถูกต้องคือไม่มีอะไรจะสวยงามไปกว่าแถวนักท่องเที่ยวยาวเหยียดที่รอขึ้นไปชมหอไอเฟลในทุกวันเสาร์

“ปารีสเป็นเมืองโรแมนติกที่สุดในโลก” ความจริงคือ มีการทำโพลเร็วๆ นี้พบว่านักท่องเที่ยวยกให้เมืองเวนิซของอิตาลีเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุด นอกจากนี้การจุมพิตภายใต้สายฝนก็ยากที่จะโรแมนติก

“อาหารรสเลิศ” ขากบเย็นชืดและราคาแพงเว่อร์ นี่หรือที่เรียกว่าอร่อยเหลือเชื่อ

“ปิกนิกด้วยขนมปังบาแกตและชีสเป็นสิ่งเยี่ยมยอดที่สุด” คำพูดนี้ไม่ผิด จนกระทั่งมีคนอีก 4,000 คู่ที่คิดและทำแบบเดียวกัน

“ครัวซองสดใหม่ทุกวัน” เป็นเรื่องจริง จนกระทั่งพบว่าครัวซองราคาอันละ 4 ยูโร หรือ 150 บาทซึ่งเกือบครึ่งหนึ่งของงบประมาณที่ใช้ต่อวัน

“คนปารีสไม่หยาบคาย เพียงแต่ไม่รู้ภาษาอังกฤษ” ถ้าเจอปัญหานี้ ก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เช่นกัน

“สาวฝรั่งเศสไม่อ้วน” สาวฝรั่งเศสแท้ๆ อาจจะไม่เจ้าเนื้อ แต่สาวที่เป็นนักท่องเที่ยวที่มาจากที่อื่นต้องอ้วนกลับไปแน่ๆ เพราะมาการองเป็นขนมที่ช่วยเพิ่มน้ำหนักได้อย่างดี

"ภาพวาดโมนาลิซาน่าประทับใจมากเมื่อมองเห็นด้วยตาตัวเอง" สิ่งที่น่าตกใจกว่าคือฝูงชนที่พยายามจะเบียดเสียดเพื่อให้ใกล้ชิดกับภาพวาดให้มากที่สุด

"คุณจะรู้สึกเป็น ‘ผู้หญิง’ มากเวลาอยู่ในปารีส" คำว่า “เหงื่อ" และ "เหยียบย่ำ" น่าจะเป็นคำคุณศัพท์ที่เหมาะกว่า

"เขาจะขอแต่งงานที่นั่น!" ชีวิตไม่ได้เป็นอย่างที่วางแผนหรือคาดไว้เสมอไป
.................
ที่มา เว็บไซต์ฮัฟฟิงตันโพสต์ และ Bangkokbiznews.com

5 วิธีช่วยและดูแลมือถือ หรือ Gadget เปียกน้ำ

ไม่เฉพาะวันสงกรานต์เท่านั้นที่ต้องระวัง วันอื่นๆ อาจจะเสี่ยงกับการที่มือถือสุดที่รักเปียกน้ำด้วยก็เป็นได้ ลองมาดูวิธีดูแลมือถือ หรือ Gadget ต่างๆ เมื่อเปียกน้ำกันค่ะ

ภาพจาก www.gadget400.com

1. เมื่ออุปกรณ์เปียกน้ำ ควรเช็ดภายนอกให้แห้งแล้วปล่อยทิ้งไว้ อย่าเพิ่งเปิดเครื่องเพราะอาจทำให้เกิดการลัดวงจรได้

2. อุปกรณ์ Gadget บางชนิดสามารถถอดส่วนประกอบต่างๆ ได้ เช่น แบตเตอรี่, การ์ดเมมโมรี่ นำมาเช็ดทีละส่วน เพื่อลดอัตราการเปียกชื้นให้น้อยลง

3. ห้ามนำไดร์เป่าผม เป่าใส่อุปกรณ์ที่เปียกน้ำ เนื่องจากความร้อนจากไดร์เป่าผม จะทำให้แผงวงจรเกิดการเสียหายได้

4. นำอุปกรณ์ที่เปียกน้ำใส่ไว้ในถังข้าวสารที่มีฝาปิดทิ้งไว้ซักระยะหนึ่ง เพื่อให้ข้าวสารช่วยดูดความชื้นออก

5. หากทำตามขั้นตอนขั้นต้นทั้ง 4 ขั้นตอนแล้วยังไม่สามารถเปิดอุปกรณ์ใช้งานได้ แนะนำให้ส่งศูนย์ซ่อมโดยทันที เพื่อให้ช่างผู้ชำนาญตรวจสอบ

เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถออกไปสนุกแบบไม่ต้องกลัวเปียกกันได้เลย ใครสนใจรายละเอียด หรือติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีๆ จากแอดไวซ์ เข้าไปดูได้ในเฟซบุ๊คแฟนเพจที่ http://www.facebook.com/AdviceClub หรือที่เว็บไซต์ www.advice.co.th

ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/642626

วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2558

ความรู้เกี่ยวกับ ที่พัก โรงแรม

การหาข้อมูลในการท่องเที่ยว มีความสำคัญมากๆ นะคะ ยิ่งปัจจุบันคนรุ่นใหม่ไม่ค่อยนิยมการไปกับทัวร์ แต่มีความต้องการของตัวเองอย่างชัดเจน ว่าจะนอนที่ไหน กินอะไร ทำอะไร ทุกอย่างตามใจฉัน และเข้ากับไลฟ์สไตล์ของฉันเท่านั้น อย่ามาบังคับกัน ขอร้อง.. ฉะนั้นเวลาหาข้อมูลเนี่ย ก็ต้องละเอียดกันหน่อยละ รู้ว่าเก่งภาษาอังกฤษ แต่บางที ของบางอย่างมันก็ผิดพลาดกันได้

ความรู้เกี่ยวกับ ที่พัก โรงแรม
จามส์เฮ้าส์ เกาะกูด www.chamshouse.com

ในเมืองไทยนั้น เรามักจะให้ข้อมูลที่พักแก่นักท่องเที่ยว ตามชนิดของที่พัก เช่น Hotels, Serviced apartments, Condo, Apartments, Bungalow

แต่เวลาไปต่างประเทศเนี่ย ก็ควรร็นิ๊ดนึงว่าที่พักต่างๆ ที่เค้าเรียกอ่ะ หน้าตาเป็นไง จะได้ไม่ผิดหวัง จองไปแล้วทั้งทริป แต่กลับไม่ได้อย่างใจ จะเปลี่ยนก็เสียดายตังค์ จ่ายไปหมดแล้วหนิ

มาดูกันดีกว่าว่าที่พักในแบบต่างๆ ที่คุณจะเจอหากเดินทางไปในแถบยุโรป กับอเมริกาเนี่ย มีอะไรบ้าง

- Hotel
ใช่ค่ะ แปลว่าโรงแรม แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณเดินทางไปในส่วนไหนของโลกด้วยนะ นี่...ขู่ซะ เอาให้ชัวร์ต้องเสิร์ชใน Expedia.com เค้าซะหน่อย ว่ารายละเอียดหน้าตาเป็นไง เพราะคำว่า Hotel เนี่ย บางแห่งอาจหมายความถึงตึกเล็กๆ แถมมีห้องพักไม่เกิน 20 ห้อง ในขณะที่บางส่วนของโลก อย่างที่เรารู้ๆ กันเนี่ย ก็เป็นโรงแรมแบบอลังการงานสร้าง หรูหราหมาเห่า (ไม่ทั่ว) แบบที่เห็นตามเมืองใหญ่ทั่วไปนะ

- Inn เป็นโรงแรมแล็กๆ ถ้าเป็นภาษาไทยเอาแบบมันส์ๆ หน่อย ก็แปลว่าโรงแรมจิ้งหรีดละกัน จะได้เห็นภาพความเล็กแอนด์โทรม (ฮา) โรงแรมแบบนี้มักจะอยู่ตามชานเมือง ตามริมทางไฮเวย์ หรือนอกเมืองไปเลย สำหรับคนที่เดินทางไกลด้วยรถ แล้วก็แวะพักผ่อนนอนค้างคืน เพื่อที่รุ่งขึ้นจะได้ไปต่อ ในเมืองใหญ่ๆ จะไม่ค่อยมีที่พักประเภทนี้สักเท่าไหร่หรอก สภาพเหรอ...ส่วนใหญ่ก็จะมีขนาดเล็กแบบไม่เกิน 2 ชั้น ราคาก็ค่อนข้างถูก และก็อย่างที่ทราบนะฮ้า ของถูกก็ไม่ค่อยจะมีดี ชิมิชิมิ อ่ะ..แต่เค้าก็มีดี ตรงที่มีอาหารบริการด้วยนะ บางที่มีผับด้วย ไม่ได้ให้อยู่แบบอดๆ อยากๆ

- Motel อันนี้ค่อนข้างใกล้เคียงกับที่พักแบบอินน์ แต่อาจจะสบายกว่านี๊ดนึง ต่างกันตรงที่โมเต็ลเนี่ยไม่มีอาหารบริการ เรียกว่าเอาไว้ซุกหัวนอนจริงๆ

- Lodge ทีพักแบบนี้มักจะพบตามแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นภูเขา เป็นที่พักที่อยู่สบาย ส่วนใหญ่จะมีเตาผิงเอาไว้ในห้องด้วยสำหรับเวลาอากาศหนาว โรแมนติกซะไม่มีอ่ะ

- B&B(Bed & Breakfast) มักจะพบได้ตามชนบทของประเทศทางยุโรปและอเมริกา ส่วนใหญ่เป็นบ้านที่เจ้าของมีห้องเหลือนิดหน่อย เอามาทำเป็นที่พักรับรองนักเดินทาง แบบน่ารักๆ เช้าขึ้นมาคุณแม่ก็ลงมือปรุงอาหารให้กินกัน B&B มักจะมีห้องไม่เกิน 5-6 ห้องต่อที่ และส่วนใหญ่จะเก๋แอนด์อบอุ่นด้วย เนื่องจากเจ้าของก็ดูแลเอาใจใส่สุดฤทธิ์ ... ดีขนาดนี้ ถึงจะเล็กก็เล็กพริกขี้หนู ฉะนั้นอย่าได้หวังว่าที่พักแบบนี้จะราคาถูกนะ ฝันไปก่อน และถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ชอบสัตว์เลี้ยงล่ะก็ เวลาจองขอให้ถามเจ้าของบ้านด้วยว่ามีหมา แมว หรือสัตว์เลี้ยงอะไรที่เขาปล่อยให้เดินเพ่นพ่านไปทั่วหรือเปล่า บอกไว้ก่อน เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน

- Apartment อย่าคิดว่าหน้าตาเหมือนอพาร์ตเมนท์โทรมๆ แบบไทยๆ เชียว เพราะต่างประเทศเนี่ย ของเค้าดูดีอยู่สบาย มีหลายห้องทีเดียว เหมาะกับเวลาไปเที่ยวกันเป็นกลุ่มหลายคน และใช้เวลาอยู่ในเมืองเป็นส่วนใหญ่ สู้ค่าโรงแรมดีๆ ไม่ไหว อพาร์ตเมนท์ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่โอเคมากๆ มีให้เลือกตั้งแต่ 1-3 ห้องนอน เช็คให้ดีๆ เพราะบางที่ให้อยู่เป็นอาทิตย์ได้ แต่บางที่บังคับให้พักเป็นเดือน

- Studio อันนี้เหมาะกับการไปอยู่แบบ long stay สุดๆ เพราะไม่มีให้เช่าเป็นรายวันนะ ขอบอก แต่เรื่องความชิค... หายห่วง เก๋สุดยอด ที่พักแบบนี้มักจะอยู่ในเมืองและในย่านที่ขึ้นชื่อเรื่องความเก๋ไก๋ไม่เป็นรองใคร อย่างย่านโซโหที่นิวยอร์ค Rive Gauche ที่แพรีส (ขอออกเสียงแบบมีจริตนิดนึงให้เหมาะกับสถานที่เค้า) ขนาดของห้องเนี่ยเท่ารูหนูหรือใหญ่กว่าเล็กน้อย อยู่ได้คนเดียว มากสุดก็ 2 คนแบบเบียดๆ ต้องรักกันจริง ไม่งั้นมีเคือง... การตกแต่งก็อื้อหือ หายห่วงอีกแหละ ถ้าจะไปอยู่ก็อย่าลืมแต่งตัวให้เข้ากับสถานที่ด้วยล่ะ เดี๋ยวอายเพื่อนข้างห้อง

อยากจะอยู่แบบไหนก็เช็คให้แน่ใจก่อนว่า ที่พักแบบต่างๆ หมายความถึงอะไรกันแน่ และทางที่ดี ควรเห็นรูปก่อนเพื่อ confirm สภาพ จะดีมาก

เสียเงินไปเที่ยวทั้งที ไม่ควรจะเสียอารมณ์ด้วย จริงไหม

ข้อมูลจาก http://www.chicministry.com

วิธีจัดกระเป๋าเดินทาง ขั้นเทพ

เวลาที่สาวๆ หลายคนจัดกระเป๋าไปเที่ยว อาจจะเคยเจอคำถามที่ว่า .. “จะไปเที่ยว” หรือ “ย้ายบ้าน” คำถามทรมานจิต ความพะรุงพะรังก็ทำพิษขณะท่องเที่ยว จัดกระเป๋าเดินทางแต่ละที คิดไม่ตก ไอ้นู่นก็ต้องพก ไอ้นี่มีไว้ก็อุ่นใจ อะไรก็ขาดไม่ได้ไปซะหมด ยัดกันจนซิปปริ ลอง วิธีจัดกระเป๋าเดินทาง ขั้นเทพ ตามนี้..
tips for luggage ภาพจาก http://www.travistravelgear.com/

1. จดรายการของที่จำเป็น
โดยคำนึงถึงสถานที่เที่ยวที่จะไป เช่น ถ้าไปแบบสมบุกสมบัน อุปกรณ์บางอย่างอาจมีไม่พร้อมเหมือนนอนโรงแรมทั้งหลาย เช่น ไปป่าหน้าหนาวจะถามหาผ้าห่มจากที่ไหน หรือ ถ้าเข้าป่าแล้วต้องพกน้ำหอม ก็แนะนำให้นอนหอมอยู่ที่บ้าน

2. หนักบน เบาล่าง
กางเกงตัวเดียวเข้ากับเสื้อได้สารพัด แต่ถ้าต้องมีเปียก มีเลอะ เผื่อชุดที่ต้องเปรอะติดไปด้วย หรือ ถ้าต้องพกชุดสวย-หล่อ ใส่งานเลี้ยงตอนเย็น ก็ควรเป็นชุดที่ผ้าไม่ยับง่าย ถ้าเป็นสูทไม่ควรใส่กระเป๋าอย่างยิ่ง นอกจากจะกินพื้นที่แล้วยังยับไม่มีดีซะด้วย

3. รองเท้าคู่ใจ
เลือกรองเท้าคู่โปรดที่ใส่ได้ทุกสถานการณ์ ลองให้เข้ากับชุด จะใส่กับชุดไหนก็หล่อ-สวย ช่วยประหยัดเนื้อที่ได้เยอะหากไม่ต้องยัดลงไปในกระเป๋า แต่ถ้าเป็นแตะบางๆ เบาๆ ก็พอแทรกพื้นที่ตามซอกหลืบได้สบาย

4. ล้านแปดเครื่องประทินผิวกรณีสำหรับคนที่ดูแลตัวเองจัด งัดครีมไปทั้งบ้าน ให้ถ่ายครีมเหล่านั้นลงขวดไซส์เล็กสำหรับเดินทาง เดี๋ยวนี้หาซื้อง่ายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป แล้วแพ็ครวมกันใส่กระเป๋าเล็กๆ เพื่อความสะดวกตอนใช้ (บางคนจัดมาจัดไป กระเป๋าครีมใหญ่กว่ากระเป๋าเดินทางอิ๊กกกก)

5. ลำดับความสำคัญ – ไล่จัดของตามวัน เสื้อผ้าที่ใส่วันสุดท้ายอยู่ล่างสุด ของที่จำเป็นต้องหยิบเข้า-ออกบ่อย เช่น หนังสือเดินทาง กระเป๋าสตางค์ เอกสารสำคัญ ให้อยู่บนสุดหรืออยู่ตามช่องที่หยิบได้ง่าย

6. ม้วนดีที่สุด – เปลี่ยนจากการพับ เป็นการม้วนให้เล็กที่สุด วิธีนี้จะช่วยประหยัดพื้นที่ และไม่ทำให้เสื้อผ้ายับยู่ยี่ด้วย


หรืออ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.travistravelgear.com/uncategorized/luggage-packing-tips/

วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2558

เขาหินปูน Tsingy, Madagascar

เรื่องแปลกๆ น่าสนใจมีมากมายในโลกใบนี้ วันนี้ขอจำเสนอ "เขาหินปูน" ที่มาดากัสการ์
สถานที่แปลกน่าสนใจ Tsingy, Madagascar


ข้อมูล: ใกล้กับชายฝั่งด้านตะวันตกของ Madagascar เป็นที่ตั้งของเขาหินปูน Tsingy ซึ่งมีรูปร่างประหลาด แหลมคมคล้ายกับเข็มยักษ์

ตำนาน: Sifaka (Sifaka คือสัตว์ในตระกูลลีเมอร์ อาศัยอยู่ที่ Madagascar) ได้รับของขวัญพิเศษจากเทพแห่งจันทรา ด้วยการเนรมิตสีขนให้เปล่งประกายเหมือนแสงแห่งจันทร์ ทำให้พวกมันรู้สึกภาคภูมิใจในความสง่างาม แต่ในขณะเดียวกัน “ขนเรืองแสง” อันโดดเด่น ก็ทำให้ Sifaka เป็นที่สังเกตและมองเห็นได้ง่าย ไม่ปลอดภัยจาก เจ้า  Fossa จอมเจ้าเล่ห์ (แมวนักล่า) ในไม่ช้า พวกพ้อง Sifaka ก็ถูกกำจัดทิ้งอย่างน่าใจหาย เจ้าตัวที่เหลืออยู่จึงหาหนทางแห่งการรอดชีวิต ด้วยการสร้างที่หลบภัยในป่าหิน และขอความช่วยเหลือจากเทพแห่งจันทรา ด้วยความสงสาร เทพแห่งจันทราจึงเสกป่าหินธรรมดาให้กลายเป็นหินเข็มยักษ์ ซึ่งมีความแหลมคมมาก หากปีนป่ายไม่ระวัง มีดับอนาถขาดสองท่อน Tsingy แห่ง Madagascar จึงเป็นสถานที่ที่อยู่อาศัยได้ยาก แต่ก็มั่นใจได้ว่าปลอดภัยจากพวกนักล่าแน่นอน

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า: สถานที่ที่อันตรายที่สุดอาจเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด

6 เกาะสวรรค์ในไทย สวยงามสุดใจต้องไปสักครั้ง

เพราะความงามของทะเลนั้นแตกต่างกันไป ทะเลไทย สวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่แพ้ที่ไหนๆ ในโลกเช่นกัน จะมีที่ไหนบ้าง ที่ที่คุณๆ ไม่ควรพลาด กับ 6 เกาะสวรรค์ในไทย สวยงามสุดใจต้องไปสักครั้ง

หมู่เกาะพีพี
สัมผัสดินแดนเหนือจินตนาการที่จะตราตรึงใจให้คุณทั้งสองลืมตื่นจากภวังศ์ ด้วยความงดงามของน้ำทะเลสีมรกตที่ถูกโอบกอดไว้ด้วยขุนเขาและหน้าผาที่สูงชัน ชมความงามของอ่าวมาหยาที่เสื่องชื่อไปทั่วโลก พร้อมกับไปปืนหน้าผาที่อ่านนาว และอ่าวไร่เลย์ ซึ่งเป็นจุดที่ปืนหน้าผาที่มีชื่อเสียงก่อนจะปิดท้ายด้วยการเก็บภาพสวยๆ มาทำ Scrapbook หรือบันทึกรอบยิ้มเก็บไว้ด้วยกันที่ทะเลแหวก ซึ่งเป็นสันทรายขาวสะอาดที่ธรรมชาติสร้างขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์

หมู่เกาะสิมิลัน
ลาพักร้อนและพาเธอไปพลอดรักบนพื้นทรายที่นุ่มละเอียดท่ามกลางแสงอาทิตย์บน หมู่เกาะสิมิลัน เกาะสวรรค์สำหรับการพักผ่อนในช่วงเดือนมีนาคม ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นช่วงที่อากาศดีที่สุด น้ำทะเลสีครามและไม่มีมรสุม เกาะสิมิลันตั้งตระหง่านท่ามกลางท้องทะเลอันดามันสีฟ้าครามอันเลื่องชื่อใน ความงามของแนวปะการังที่สมบูรณ์ เหมาะสำหรับงานวิวาห์ใต้ทะเลอันแสนโรแมนติกอย่างยิ่ง

หมู่เกาะอ่างทอง
มอบของขวัญจากธรรมชาติด้วยภาพที่สวยงามกึ่งความจริงและความฝัน ณ จุดชมวิวบนเกาะวัวตาหลับ ซึ่งเลื่องลือในเรื่องความงดงาม แต่การเดินทางไปชมนั้นต้องเดินเท้าเปล่าผ่านพื้นที่ลาดชันที่รอให้คุณทั้ง สองฝ่าฟันอุปสรรคไปดื่มด่ำความงดงามร่วมกัน เกาะแห่งนี้มีรูปร่างแปลกตาทอดยาวบนพื้นทะเลที่แต่งแต้มด้วยสีคราม พร้อมสัมผัสความงดงามอันน่ามหัศจรรย์ของทะเลในหรือทะเลสาบกลางภูเขาบนเกาะ แม่เกาะ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่หาพบได้ยาก บริเวณจุดชมวิวที่ห่างออกไปอีก 400 เมตร จะเห็นวิวทิวทัศน์ของทะเลปิดที่โอบล้อมด้วยขุนเขาและแมกไม้อันเขียวขจี

หมู่เกาะสุรินทร์
กระซิบที่ข้างหูของเธอเบาๆ ยามเมื่อชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามบนหมู่เกาะสุรินทร์ และใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายร่วมกันด้วยการนอนกางเต็นท์บริเวณหน้าอ่าวช่องขาด พร้อมกับจูงมือกันดำดิ่งไปชมความงามของปะการังบริเวณกองหินปริ่มน้ำหรือที่ ชาวท้องถิ่นเรียกว่า “ริเชลิว” ซึ่งห่างจากเกาะสุรินทร์ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 14 กิโลเมตร หรือดำน้ำตื้นบริเวณอ่าวรอบๆ หมู่เกาะสุรินทร์ที่เต็มไปด้วยแนวปะการังที่สมบูรณ์ที่สุด สำหรับคู่รักที่ชอบกิจกรรมดำน้ำไม่ควรพลาดการเดินทางไปพักผ่อนที่เกาะแห่ง นี้

เกาะช้าง-เกาะกูด
ลองจินตนาการดูซิว่าความโรแมนติกในยามที่คุณและแฟนนั่งเรือเฟอร์รี่แล้ว ค่อยๆ ล่องไปบนผืนทะเลฝั่งอ่าวไทยที่ความใสราวกับกระจก จะนำทางคุณทั้งสองไปสู่หาดทรายขาวดั่งความรักที่บริสุทธิ์ เกาะช้างแห่งนี้รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์ของป่าและน้ำตกที่รอให้คุณ และคนรักเดนิจูงมือลัดเลาะป่าอันเขียวขจีเข้ามาสัมผัสสายน้ำเย็นๆ พร้อมๆ กับการชมนกและผีเสื้อที่หาดูได้ยาก หรือนั่งเรืออกไปดำน้ำดูฝูงปลาและปะการังหลากสีสัน และหากคุณต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นอาจเลือกเดินทางไปพักที่เกาะกูด ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเกาะช้างมากนัก ทั้ง 2 เกาะนี้ เหมาะสำหรับการเดินทาไปฮันนีมูนในช่วงฤดูร้อนเป็นอย่างยิ่ง

เกาะตะรุเตา
ลองนึกถึงฉากโรแมนติกที่แจ็คและโรสยืนอยู่บนกราบเรือไททานิค ที่โอบล้อมด้วย พื้นทะเลกว้าง พาเธอมาชมทัศนียภาพและหยอกล้อกันเบาๆ ท่ามกลางสายลมที่พัดบริเวณหน้าผาที่ยื่นออไปในทะเล ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่เชื่อมต่อระหว่างอ่าวพันเตมะละกากับอ่าวจาก หรือจูงมือกันเดินลัดเลาะไปตามหมู่เกาะอาดัง-ราวีซึ่งมีหาดทรายที่สวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหาดทรายบนเกาะไข่ซึ่งเป็นเกาะที่เต่าทะเลมาวางไข่ และไม่ควรพลาดพาเธอไปเก็บภาพความงามของเกาะหินช้อนซึ่งมีหินก้อนใหญ่รูปทรง แปลกตา 2 ก้อนเรียงซ้อนกันอยู่ราวกับนิยามความรักที่ธรรมชาติสร้างสรรค์

รวม 10 วัด ที่สวยที่สุดในโลก

ท่องอินเตอร์เน็ตมานาน สนใจบทความเกี่ยวกับการจัดอันดับเป็นพิเศษ แต่ครั้งนี้ขอไม่จัดอันดับก็แล้วกันค่ะ รวบรวมมาฝาก กับ 10 วัดสวยๆ รอบโลก

รวม 10 วัด ที่สวยที่สุดในโลก


ภาพจาก Tiger’s Nest Monastery

Tiger’s Nest Monastery ประเทศภูฏาน
ถือเป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของภูฐาน ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง 700 เมตร จากพื้นล่างในหุบเขาปาโร และด้วยระดับความสูง 3,120 เมตร จากระดับน้ำทะเล ฉายาว่า “รังเสือ” ของวัดนี้ ได้มาจากตำนานเก่า ที่เล่าว่า พระรินโปเช (Padmasambhava – Guru Rinpoche) ซึ่งเป็นผู้เผยแพร่นิกายมหายานในภูฐาน ได้เหาะมาที่นี่บนหลังเสือ และได้เข้าไปนั่งวิปัสสนากรรมฐานอยู่ในถ้ำ เป็นเวลาถึง 3 เดือน หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2227 จึงเริ่มมีการสร้างวัดนี้ขึ้นมา

วัดร่องขุ่น จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย
วัดร่องขุ่น (Wat Rong Khun) ออกแบบและก่อสร้างโดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ซึ่งปรารถนาจะสร้างวัด ให้เหมือนเมืองสวรรค์ที่มนุษย์สัมผัสได้ เริ่มสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2540 จากเดิมมีเนื้อที่ 3 ไร่ ได้ซื้อที่ดินเพิ่มและมีผู้บริจาคคือ คุณวันชัย วิชญชาคร จนปัจจุบันมีเนื้อที่ 9 ไร่

Prambanan : Hindu temple ประเทศอินโดนีเซีย
วัดฮินดูพรัมบานัน : Prambanan Temple พรัมบานันเป็นวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินโดนีเซียหรือจะเรียกว่า ใหญ่ที่สุดในเอเซียอาคเนย์เลยก็ได้ ตั้งอยู่ที่เมืองพรัมบานัน ตอนกลางของเกาะชวา และอยู่ไม่ไกลจากเกาะจากาตาร์มากนัก วัดถูกสร้างขึ้นเมื่อราวปี พ.ศ. 1340 โดยสันนิษฐานว่า น่าจะสร้างขึ้นในสมัยของกษัตริย์ Rakai Pikatan จากราชวงศ์ Mataram ที่ 2 หรืออาจะสร้างในสมัยกษัตริย์ Balitung Maha Samba จากราชวงศ์ Sanjaya ได้รับความเสียหายมากในช่วงปี 2006 เพราะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่นี่

Chion-in Temple กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
วัดจิออนอิน (Chion-in temple) พื้นที่ของวัดนั้ใหญ่โตอลังการ แทรกตัวอยู่ในเขาเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นมาก วัดนี้สร้างในปี ค.ศ. 1234 เพื่อเป็นเกียรติให้กับผู้ก่อตั้ง ศาสนาพุทธนิกายโจโด เป็นนักบวช ชื่อว่า Honen

The Harmandir Sahib : the Golden Temple in Punjab ประเทศอินเดีย
วิหารฮัรมันดิร ซาฮิบ หรือ วิหารทองคำ เป็นวิหารที่สำคัญที่สุด ในศาสนาซิก ตั้งอยู่ที่เมืองอัมริตสาร์ เมืองหลวงของ แคว้นปัญจาบ ทางภาคเหนือของประเทศอินเดีย

The Temple of Srirangam (Sri Ranganathaswamy Temple) ประเทศอินเดีย
วัดนี้อยู่ในประเทศอินเดีย เมือง Tiruchirapalli หรือ Trichy เป็นวัดของศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Ankor Wat : the largest temple in history ราชอาณาจักรกัมพูชา
ปราสาทนครวัด (Angkor Wat) เป็นเทวสถานฮินดูลัทธิไวษณพนิกาย ที่นับถือพระวิษณุเป็นเทพเจ้าสูงสุด สร้างโดยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 เมื่อช่วงครึ่งแรกคริสต์ศตวรรษที่ 12 เพื่ออุทิศถวาย แด่องค์พระวิษณุที่พระองค์เชื่อว่า เป็นร่างของพระองค์เอง ในขณะที่ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ และหลังจากสิ้นพระชนม์ไปแล้ว ศาสนสถานแห่งนี้ ก็จะเป็นพระราชสุสานที่พระองค์ จะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับองค์พระวิษณุ

Borobudur เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย
บุโรพุทโธ ( Borobudur ) พุทธสถานอันศักดิ์สิทธิ์ ที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 8-9 โดยกษัตริย์ราชวงศ์ไศเลนทร ตั้งอยู่บนเนินสูงของเกาะชวาภาคกลาง ห่างจากเมือง ยอกยากาตาร์ ( Yogyakata ) ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 40 กิโลเมตร ถือเป็นโบราณสถาานขนาดใหญ่ และเป็นศูนย์รวมแห่งความภาคภูมิใจของชาวอินโดนิเซีย และชาวพุทธทุกคน ซึ่งหวังจะไปแสวงบุญสักครั้งในชีวิต เจดีย์บุโรพุทโธรูปทรงดอกบัวนี้ก่อสร้างตามแบบศิลปะฮินดู-ชวา หรือศิลปะชวาภาคกลางที่ผสมผสาานระหว่างอินเดียและอินโดนีเซีย ได้อย่างกลมกลืนที่สุด บุโรพุทโธเปรียบเป็นศูนย์กลางของจักรวาล

Temple of Heaven : a Taoist temple in Beijing สาธารณรัฐประชาชนจีน
หอฟ้าเทียนถานเป็นสถานบวงสรวงเทพยดาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งยังคงรักษาไว้ในจีน ประกอบด้วยตําหนักฉีเหนียนเตี้ยน ตําหนักหวงฉงอี่ และลานหยวนชิว เป็นต้น เทียนถานตั้งอยู่ทางทิศใต้ของกรุงปักกิ่ง มีเนื้อที่ทั้งหมด ๒๗๓ เฮกต้าร์ เป็นสถานซึ่งจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิงใช้เป็นที่บวงสรวงเทพยดา ในระยะย่างเข้าฤดูหนาว ถึงเดือนอ้ายตามจันทรคติทุกปี พระจักรพรรดิจะเสด็จไปประกอบ พระราชพิธีบวงสรวงที่นั่นเพื่อให้การเก็บเกี่ยวได้ผลอุดม

The Shwedagon Paya (or Pagoda) สหภาพพม่า
พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เชื่อกันว่าเป็นมหาเจดีย์ที่บรรจุ พระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น ตามตำนาน เจดีย์ชเวดากองนั้นสร้างเมื่อง 2,500 ปีที่แล้ว แต่นักโบราณคดีเชื่อกันว่าสร้างระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 6-10 สร้างโดยชาวมอญ ตามตำนานนั้นเริ่มจากว่า มีสองพี่น้อง พ่อค้า 2 คน ได้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้ามา พระองค์จึง ประทานพระเกศามา 8 เส้น พระเจดีย์ได้ถูกทิ้งร้าง จนมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 14 รัชสมัยพระเจ้าพินยาอู ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระเจดีย์ใหม่สูง 18 เมตร พระเจดีย์ได้ถูกซ่อมแซมมาเรื่อยมา จนมามีความสูง 98 เมตรในปัจจุบัน บนยอดสุดของพระเจดีย์ มีเพชรอยู่ 5,448 เม็ด โดยเฉพาะ ชั้นข้างบนสุดมีเพชรเม็ดใหญ่อยู่ 72 กะรัต และทับทิม 2,317 เม็ด

ที่มา : http://www.fwdder.com
http://travel.mthai.com/world-travel/15758.html

วันศุกร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2558

10 สถานที่ท่องเที่ยวสุดโรแมนติก

ต่อไปนี้คือ 10 อันดับสถานที่ ที่ถูกจัดว่า มีความโรแมนติกมากที่สุดในโลก ซึ่งน่าจะหาโอกาสพาคนรักไปเยี่ยมชม สักครั้งหนึ่งในชีวิต

อันดับที่ 1. mauritius island
สถานที่แห่งนี้ ได้รับการกล่าวขานว่า “ปลายทางสุดท้าย ที่โรแมนติกมากที่สุด” (ultimate romantic destination) เกาะ mauritius มีชื่อเสียงอย่างมาก ในหมู่คู่รักที่จะมาท่องเที่ยว หรือคู่รักที่จะมาฮันนีมูน ต้นปาล์มมากมาย ที่เคลื่อนที่พริ้วไหว ไปตามสายลม บรรยากาศที่สวยงามตามธรรมชาติ แนวหินปะการัง และท้องทะเลสีฟ้า เป็นส่วนหนึ่ง ในอีกหลายๆ สิ่ง ที่ทำให้สถานที่แห่งนี้ สวยงามจนยากที่จะลืมเลือน

อันดับที่ 2. cairo ประเทศอียิปต์ เมือง cairo
ก็ได้รับการกล่าวขานว่า เป็นสวรรค์บนโลกเช่นเดียวกัน (โดยเฉพาะสำหรับคู่รัก) ความงดงามและมนต์เสน่ห์ที่อยู่ในตัวเมือง คือแรงดึงดูด ใหคู่รักเดินทางมาใช้เวลาท่องเที่ยวที่นี่ด้วยกัน และปิรามิด ก็คือสิ่งที่พิเศษที่สุด ท่ามกลางความสยงามในตัวเมือง

อันดับที่ 3. new york ประเทศสหรัฐอเมริกา
เมือง new york เหมาะสำหรับคู่รัก ที่กำลังมองหาสถานที่ ที่จะใช้ช่วงเวลาแห่งความรัก และความโรแมนติกในหลากหลายรูปแบบ ร้านอาหาร และร้านค้าจำนวนมาก และสถานที่น่าสนใจอื่นๆ เช่น สถานีรถไฟ grand central terminal, อนุสาวรีย์เทพีสันติภาพ และสวนหย่อมขนาดใหญ่ central park (มีกิจกรรมคอนเสริ์ต, มีลานสเก็ตน้ำแข็ง)

อันดับที่ 4. prague สาธารณรัฐเช็ก
อีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับสถานที่โรแมนติก ก็คือ เมือง prague ของสาธารณรัฐเช็ก สถานที่แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย วัฒธรรม และปราสาทเก่าแก่ ผู้คนที่มีมิตรไมตรี และสุภาพอ่อนโยน เมือง prague เป็นสถานที่เกิดของนักดนตรีระดับโลก อย่าง mozart และมีชื่อเสียงในเรื่องของทางเดินอันสวยงามในเมือง ที่คู่รัก สามารถใช้เวลาเดินเล่นด้วยกัน

อันดับที่ 5. monte carlo ประเทศโมนาโค เมือง monte carlo
ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่โรแมนติก ที่คุณจะได้สื่อความรัก ไปยังคนรักของคุณ เมืองนี้ตั้งอยู่ที่ตีนของเทือกเขาเอลป์ และเป็นสถานที่ ที่มีเรื่องราวของความรัก ก่อกำเนิดขึ้นมากมาย สิ่งที่น่าสนใจของเมือง monte carlo คือบ่อนคาสิโนเลื่องชื่อ (monte carlo casino) พิพิทธภัณธ์ทางทะเล, พิพิทธภัณฑ์ประจำชาติ และพระราชวัง prince

อันดับ ที่ 6. vienna ประเทศออสเตรีย เมือง vienna ในประเทศออสเตรีย
 เป็นอีกสถานที่ ที่มีคู่รักจากทั่วทุกมุมของโลก แวะเวียนมาเยี่ยมชมความสวยงาม สิ่งที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้คือ สุดยอดสถาปัตยกรรม และสุดยอดผลงานเพลง, ศิลปะ และพิพิทธภัณฑ์ศิลปะ ที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก พระราชวัง schoenbrunn, พระราชวัง belvedere, พระราชวัง the hofburg imperial และพิพิทธภัณฑ์นักจิตวิทยาผู้โด่งดัง sigmund freud

อันดับที่ 7. schloss neuschwanstein ประเทศเยอรมันนี
สถานที่ ที่ผสมผสาน ความสวยงามตามธรรมชาติ เข้ากับจินตนาการ และความสร้างสรรค์ของมนุษย์ ได้อย่างลงตัว เมือง schloss neuschwanstein มีความสวยงาม ราวกับเป็นสวรรค์บนพื้นโลก รายล้อมไปด้วยทิวทัศน์อันสวยงาม ปราสาทเก่าแก่อายุ 100 กว่าปี (สร้างปี 1899) ซึ่งเยอรมัน ได้ถูกกล่าวขานว่า เป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่มีปราสาทสวยงามที่สุดในยุโรป

อันดับ ที่ 8. vanice ประเทศอิตาลี
หากคุณกำลังมองหาสถานที่ ที่จะเอ่ยกับคนรักว่า เขาหรือเธอ เป็นคนที่มีค่ามากที่สุดในชีวิต venice ก็คือ คำตอบสุดท้ายสำหรับคุณ! เมือง venice มีชื่อเสียงโด่งดังในด้าน สุดยอดสถาปัตยกรรม และยังมีหลายสถานที่โรแมนติก เช่น สะพานเก่าแก่ ponte dei sospiri, จตุรัส piazza san marco ที่ได้รับสมณานามว่า “ห้องจิตกรรมของยุโรป” (the - drawing room of europe) และคลองในตัวเมือง “canale grande” ทั้งหมดนี้จะสร้างความโรแมนติก ระดับหรูหรา ให้กับคนรัก และตัวคุณ

อันดับที่ 9. paris ประเทศฝรั่งเศส
เมืองปารีส มีสมญานามว่า “สวรรค์แห่งความโรแมนติก” (heaven of romantic) ดังที่ สถานที่แห่งนี้ เหมาะเป็นอย่างยิ่ง ที่คุณและคนรัก จะสารภาพ “รักนิรันด์” ระหว่างกันและกัน สิ่งที่น่าประทับใจในเมืองปารีส อย่างเช่น พิพิทธภัณฑ์ le lovore (พิพิทธภัณฑ์ ที่มีผู้เข้าเยี่ยมชมมากที่สุดในโลก) หอไอเฟล โรงแรม disney land resort ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป พิพิทธภัณฑ์ศิลปะ centre pompidou และสถานที่สวยงามอื่นๆ อีกมากมาย การไปเที่ยวกับคนรักที่ปารีส หากจัดสรรเวลาให้ดี ก็จะคุ้มค่ามาก และสถานที่แห่งนี้ จะเก็บความโรแมนติกอยู่ในใจของคุณไปอีกนานแสนนาน

อันดับที่ 10. colmar ประเทศฝรั่งเศส เมือง colmar
ถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีความโรแมนติก เมืองหนึ่ง ของประเทศฝรั่งเศส และเป็นสถานที่ ที่คู่รัก มักจะให้คำสัญญาในความรัก ระหว่างกันและกัน สิ่งที่น่าประทับใจในเมือง colmar ก็คือ ไร่องุ่นจำนวนมาก เคียงคู่ไปกับอุตสาหกรรมการผลิตไวน์ชั้นเยี่ยม และบรรยากาศที่สวยงาม สถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ ช่วยทำให้เมือง colmar เป็นอีกหนึ่งในสถานที่โรแมนติกในฝัน

แล้วสาวๆ อยากไปที่ไหนกันจ๊ะ??

ที่มา http://women.mthai.com

ข้อคิดดีๆ .. ชีวิต การเดินทาง เพื่อน

อย่ากลัวที่จะออกเดินทางไปใช้ชีวิต
เพราะการออกเดินทาง
จะทำให้เราค้นพบการเปลี่ยนแปลง



การเปลี่ยนแปลง จะสอนให้เราเรียนรู้
และยอมรับสัจธรรมของชีวิต
ซึ่งทำให้เรารู้ว่า ความสุขและความทุกข์
ต่างกันมากน้อยแค่ไหน
และเราจะพบเจอคุณค่าของชีวิตได้อย่างไร

เพื่อน
คนบางคน หรือใครหลายคน อาจจะมีความคิดดีขึ้นเมื่อเติบโต
หรือบางครั้ง ความคิดกลับไม่ได้โตตามอายุ

ยิ่งโตขึ้น สิ่งเลวร้ายที่อยู่ภายในตัวเอง อาจจะแสดงออกมาได้อย่างโดดเด่น

นั่นเพราะอะไร..
เพราะสังคมทำให้เค้าเปลี่ยนไป
หรือเพราะจริงๆ แล้ว สิ่งนั้นก็แค่รอเวลาเปิดเผย
ในช่วงเวลาที่เหมาะสม

เพื่อน คือคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ
ถ้าเพื่อนคนไหนที่รู้สึก ไม่คลิก ก็อย่าไปทนฝืนคบ
จะทำให้เจ็บปวดกันเปล่าๆ

เมื่อถึงวัยหนึ่ง เราจะแยกแยะได้เองว่า
คนไหนเป็นแค่เพื่อน คนไหนเป็นได้แค่ คนรู้จัก

แล้ววันนั้น คุณจะเข้าใจความหมายของคำว่า ความสุข ที่แท้จริง จากคำว่า "เพื่อน"

www.yenta4.com

10 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยว ที่เป็นปริศนาบันลือโลก

รวบรวมเรื่องแปลกๆ น่าสนใจ กับ 10 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยว ที่เป็นปริศนาบันลือโลก มาฝาก

ภาพจาก www.telegraph.co.uk

อันดับ 1 : แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ (JACK THE RIPPER : LONDON, ENGLAND)
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1888 ที่ ตรอกไว้ท์แช็พเพล ในลอนดอน ประเภทอังกฤษ
มันคงเป็นปริศนาต่อไป และน่ากลัวกว่าที่คิดไว้เยอะ ปริศนาอันดับ 1 ที่ยังคงค้างคาใจเรา ฆาตกรต่อเนื่อง แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ อาชญากรระดับโลกที่ยังจับตัวไม่ได้ การสังหารอย่างโหดเหี้ยมของเหยื่อหลายรายติดๆกันถูกกล่าวขานถึง ย่านอีสต์เอนด์ของลอนดอนสร้างชื่อกระฉ่อนถึงความน่าสะพรึงกลัว ไม่เพียงแต่ไร้วี่แววของฆาตกร การพิสูจน์ หรือทดสอบด้านนิติวิทยาศาสตร์ยังไม่พัฒนาเท่าที่ควร จึงไม่มีเหตุผล หรือหลักฐานหนักแน่นในการมัดฆาตกร จากคดีฆาตกรรมที่โด่งดังทำให้มีผู้ต้องสงสัยเกิดขึ้นมากมาย หลักฐานสำคัญต่างๆ ถูกผุดขึ้นมาภายหลัง จะเป็นไปได้มั้ยที่จะสืบสาวหาฆาตกรตัวจริงได้ แม้ฆาตกรคนนั้นคงไม่มีชีวิตอยู่ให้จับแล้ว แต่ก็ยังดีที่ได้รู้ว่าฆาตกรตัวจริงผู้นั้นคือใคร?

เหมือนกับของบอสตัน ปัจจุบันเราสามารถไปท่องเที่ยวจุดเกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมที่นั้นได้อย่างสบายเลยแหละเพราะเขาเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว พร้อมที่ไกด์ชราที่มาเล่าความหลังสมัยยังเด็ก แถมเป็นตอนกลางคืนอีก โอ้มันสนุกอะไรเช่นนี้ อย่างกับบ้านผีสิง

อันดับ 2 : ยักษ์แห่งเกาะอีสเตอร์ (EASTER ISLAND GIANTS : EASTER ISLAND, CHILE)
เดินทางมาสัมผัสเกาะปริศนาที่โดดเดี่ยว เวิ้งว้างกลางมหาสมุทร รูปสลักหินลึกลับขนาดมหึมากว่า 800 รูป เรียงรายเต็มฝั่งทั่วเกาะ ทั้งที่ไม่มีคนอยู่ รูปสลักนี้มาจากไหน? สร้างขึ้นได้อย่างไร? อาจเป็นชาวโพลีนีเชียนชนพื้นเมืองที่มาตั้งรกรากเมื่อ ค.ศ.400 เป็นผู้สร้างขึ้น แต่ทำไมถึงสร้าง และอยู่บริเวณนี้ได้อย่างไรยังคงเป็นปริศนาดำมืด ด้วยวิวัฒนาการ ความรู้ของคนในสมัยอดีต เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะยกหินที่หนักกว่า 75 ตันมาไว้ตามชายฝั่งได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ถึงกระนั้นรูปปั้นเหล่านี้ก็ยังคงถูกทิ้งไว้เพื่อค้นหาคำตอบต่อไป
ปัจจุบันไม่รู้เขาจะเปิดหรือเปล่า แต่จากการเดาน่ะเขาคงไม่เปิดแล้วแหละเพราะรัฐบาลเขากลัวนักท่องเที่ยวมาทำความเสียหายบนเกาะนี้

อันดับ 3 : "คฤหาสน์วินเชสเตอร์" Mystery House 
คนที่อ่าน"Executional มหาสงครามออนไลน์ถล่มจักรวาล"คงร้องอ๋อกับสถานที่นี้
คฤหาสน์วินเชสเตอร์ ตั้งอยู่ที่ ซานโฮโซ แคลิฟอร์เนีย ประเทศอเมริกา ถูกสร้างในปีศตวรรษที่ 19 มันยังคงสภาพมานานเป็นเวลานานถึง 38 ปี และในปี 1974 ได้ถูกบันทึกเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ของประเทศ นอกจากในแง่การก่อสร้างอันพิสดารแล้วยังมีชื่อว่าเป็นบ้านผีสิงอีกด้วย
คฤหาสน์หลังนี้มีมูลค่า 5,500,000 ดอลล่าร์สหรัฐ มีห้องทั้งหมด 160 ห้อง สูง 4 ชั้น (เดิม 7) ห้องใต้ดินสองชั้น ประตู 950 บาน หน้าต่างประมาณหมื่นบาน เตาผิง 47 เตา บันได 40 ที่(376 ขั้น) และห้องจัดเลี้ยงอีก 2 ห้อง ว่ากันว่าซาร่า สร้างคฤหาสน์นี้ขึ้นเพราะผีบอกให้สร้างเอาไว้เป็นสถานที่จัดเลี้ยงผี และมีสิ่งที่แปลกก็เช่นบันไดที่ขึ้นไปโดยไม่สิ้นสุด ประตูห้องกลลวง หน้าต่างที่ไม่รู้จะสร้างมาทำไม ห้องกลไก ฯลฯ
ปัจจุบันนี้เปิดให้คนทั่วไปเข้าชม สำหรับทัวร์มีทั้งปกติในตอนกลางวันและทัวร์กลางคืน (ต้องมีไกด์นำทางกันหลง แต่ก็ระวังล่ะไกด์ก็เคยหลงมาแล้วเหมือนกัน)

อันดับ 4 : สัตว์ประหลาดแห่งล็อกเนส (THE LOCH NESS MONSTER : INVERNESS, SCOTLAND)
ทะเลสาบล็อกเนส ในสก็อตแลนด์
บนโลกนี้มีเรื่องให้พิสูจน์อีกมาก อย่างที่เรากำลังจะพาไปเยี่ยมเยือนสัตว์ประหลาด แห่งทะเลสาบล็อกเนส ในสก็อตแลนด์ เรื่องเล่าที่โด่งดังเกี่ยวกับสัตว์รูปร่างประหลาด เนสซี่ ตัวใหญ่ประมาณ 15 – 40 ฟุต มักโผล่ขึ้นมาให้เห็นเป็นครั้งคราว หลายคนสนใจติดตามจับภาพสัตว์ประหลาดตัวนี้ แล้วบางอย่างก็เป็นจริง มีภาพของวัตถุลึกลับเคลื่อนไหวอยู่ในทะเลสาบชื่อก้องนี้ แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นตัวอะไรกันแน่ ถึงอย่างไรคนหลายคนต่างเชื่อว่า เนสซี่ สัตว์ประหลาดแห่งล็อกเนส มีรูปร่างคล้ายไดโนเสาร์ คอยาว มีครีบ นั้นมีอยู่จริง แต่เราจะได้เห็นหรือไม่คงต้องขึ้นอยู่กับตัวเนสซี่เอง
ปัจจุบันเราสามารถไปท่องเที่ยวที่นั้นได้อย่างสบายเลยแหละเพราะเขาเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว พร้อมที่พักกับกล้องส่อง กล้องวงจรต่างๆ เผื่อถ่ายติดแล้วส่งรายการเรื่องจริงผ่านจอได้เลย

อันดับ 5 : นักฆ่ารัดคอแห่งบอสตัน (THE BOSTON STRANGLER : BOSTON, MA)
เมืองบอสตัน มลรัฐแมสซาซูเซตต์ สหรัฐอเมริกา
คดีแห่งปริศนา(เกิดขึ้น 1962-2001) ฆาตกรรมอำพราง เมื่อหลายปีก่อนถูกคลี่คลาย แต่เร็วๆนี้ถูกนำมาสอบสวนใหม่ ชนวนที่ฆาตกรที่จับได้จะใช่ฆาตกรตัวจริงหรือ?
มันฆาตกรระดับโลกอีกคนที่ถูกนำไปสร้างหนังมากที่สุดอีกคนหนึ่ง เหยื่อของมันส่วนมากเป็นหญิงชรา ผลงานของมันมีถึง 13 ศพ ทุกรายถูกทารุณกรรมทางเพศ บางครั้งโดนกัด ทุบด้วยของหนัก ถูกแทง และจัดศพแผ่หลาราวกับถ่ายหนังโป๊ ที่น่าสังเกตคือทุกศพโดนรัดคอด้วยของใช้ของผู้ตายเอง เช่น ถุงน่อง กางเกงในยืด ฯลฯ และมัดในรูปของหูกระต่ายวางที่ใต้คางเหยื่อ
คดีนี้ปิดฉากไปโดยตัวผู้รับสารภาพ อัลเบิร์ต เดอ ซาลโว แต่ต่อมาคดีฆาตกรรมปริศนาเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น เมื่อครอบครัวของหญิง 1 ในผู้ตายพบหลักฐานที่ส่อพิรุธ การรื้อคดีเป็นได้แค่การบังหน้าของตำรวจ ไม่มีความรับผิดชอบใดใดเพิ่มมากขึ้น เดอ ซาลโว จะใช่ฆาตกรตัวจริงหรือเปล่า หรือว่านักฆ่าจอมโหดผู้นี้ยังคงลอยนวลต่อไป จนบัดนี้มันยังคงเป็นปริศนา???

ปัจจุบันนี้เขายังมีการเปิดทัวร์ให้ไปเยี่ยมชมสถานที่การฆาตกรรมของเหยื่อทั้งหมดด้วยน่ะ ราคาก็ไม่แพง เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคอฆาตกรรม สืบสวน สอบสวนได้ดีเลยแหละ

อันดับ 6 : โอเรกอน วอร์เท็กซ์ (OREGON VORTEX : GOLD HILL, OREGON)
สถานที่นี้ตั้งอยู่ในอเมริกา(ไม่บอกไม่รู้น่ะเนี้ย) ปรากฏในเคโรเระโดยน่ะจะบอกให้
พบกับสถานที่ที่ไม่ลึกลับแต่มันเป็นภาพลวงตาที่หาคำตอบไม่ได้ แนวแม่เหล็กที่ไขว้กันอยู่ใต้พื้นดิน สนามพลังผิดปกติ เมื่อคุณเข้าไปยืนในนั้นจะรู้สึกเหมือนเป็นตัวประหลาด จุดที่แม่เหล็กไขว้ทับกัน คุณรู้สึกได้ถึงความกดดัน มันผลักกันและกัน และหมุนรอบๆจนคุณทนไม่ไหว การยืด หรือหดตัวอย่างน่าใจหาย ไม่นับสถานที่แห่งนี้ยังมี โรงนาปริศนา ที่ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด ตัวของคุณจะเอียง ลูกกอล์ฟกลิ้งขึ้นเนินเองได้ ไม้กวาดตั้งได้เอง จนคุณอยากออกจากประสบการณ์แปลกประหลาดเหล่านี้สู่ โลกแห่งความจริง ที่ทุกอย่างพิสูจน์ได้
ใครอยากไปสามารถติดต่อได้ที่ The Oregon Vortex
4303 Sardine Creek L Fork RD Gold Hill, OR 97525-9732 Voice: (541) 855-1543 Fax: (541) 855-5582

อันดับ 7 : ป้อมปราสาทสยองขวัญ (The Tower of London)
สถานที่นี้ตั้งอยู่ในลอนดอนครับ มีชื่อเสียงมาก ถามใครต่างรู้จัก
จัดได้ว่าเป็นสถานที่โบราณที่มีเรื่องสยองขวัญเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะที่นั้นเป็นสถานที่ ทั้งกษัตริย์ ราชินี เชื้อพระวงศ์ ตอลอดจนขุนนางชั้นสูงต่างล้วนจบชีวิตลงที่นี้มาก โดยการตัดคอ
และมีหลายคนเห็นผีหัวขาดบ้าง ไม่ขาดบ้างปรากฏในปราสาทนี้นับครั้งไม่ถ้วนเลยครับ
ในปัจจุบันเราก็สามารถเยี่ยมสถานที่ตั้งนี้ได้อย่างสบายใจ โชคดีอาจเจอผีก็ได้น่ะ

อันดับ 8 : สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า (BERMUDA TRIANGLE : ATLANTIC OCEAN)
ความลึกลับ อาถรรพณ์ และเรื่องจริงที่เกิดขึ้นยังคงกล่าวขานถึง สู่หายนะกับสถานที่แห่งนี้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า มฤตยูกลางมหาสมุทรแอตแลนติก โดยอาณาบริเวณนี้กินกว้างจากฟลอริด้า-เปอร์โต ริโก-เกาะเบอร์มิวด้า มันกินพื้นที่ตั้งห้าแสนตารางไมล์
สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้านี้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถหา คำอธิบายได้ เช่น เครื่องบิน เรือ ที่ผ่านบริเวณสามเหลี่ยมมรณะถูกดูดกลืนสูญหายไปอย่าง ไร้ร่องรอยโดย ไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่สภาพอากาศ และทุกอย่างเป็นปกติ ไม่มีข้อสรุป คำตอบ หรือข้ออ้างให้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีเพียงแต่ปริศนาที่ยังค้างคาใจ ผู้คนจนถึงปัจจุบัน
ถ้าใครจะไปพิสูจน์ก็แขวนพระดีๆ หน่อยล่ะ

อันดับ 9 : ภาพลายเส้นนาซคา (NAZCA LINES : NAZCA, PERU)

สถานที่ท่องเที่ยวที่ต่อไปต้องบินไปถึงทวีปอเมริกาใต้ ในทะเลทรายทางภาคใต้ ที่ราบสูงของประเทศเปรูครับ
ที่นั้นมีลายเส้นพิศวงกับปริศนาจากภาพแปลกๆ มากมาย และเป็นข้อกังขาของที่มาของเรื่องทั้งหมด รูปภาพสัตว์ขนาดใหญ่ สุนัข แมงมุม ปลาวาฬ ดอกไม้ ลิง เป็ด และนกกางปีก บนชายฝั่งทางใต้ของเปรู เป็นคำถามที่คนพื้นเมืองในอดีตสร้างขึ้นเพื่อผูกปมเรื่องให้ใคร่คิด บ้างเชื่อเรื่องทางเดินสู่แหล่งน้ำของชนเผ่าต่างๆ บ้างก็เชื่อมนุษย์ต่างดาวใช้สถานที่แห่งนี้ลงจอดยานบิน หรือมันอาจเป็นส่วนหนึ่งของปฏิทินดาราศาสตร์ที่ซับซ้อน แม้จะหาข้อสรุปไม่ได้ แต่สมมติฐานทั้งหมดก็ช่วยให้เราสนใจภาพวาดเหล่านั้นยิ่งขึ้น
แต่รีบๆ ไปเที่ยวหน่อยล่ะ เพราะปัจจุบันลายเส้นพวกนี้นับวันยิ่งจางหายไปเนื่องจากรอยล้อรถของพวกนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวสถานที่แห่งนี้ลบของเดิมที่มีมาไปจนเกือบหมดแล้ว

อันดับ 10 : มนุษย์หิมะ - เยติ (The Abominable Snowman)
สถานที่นี้ก็อยู่ทวีปเอเซีย ในหุบเขาหิมาลัย ในประเทศเยติ สถานที่นี้ได้มีการพบ อโบมิเนเบิ้ล สโนว์แมน หรือที่ชาวเซอร์ปาร์เรียกว่า เยติ มีประวัติอันยาวนานมากที่สุดในบรรดาเรื่องราวของมนุษย์วานรทั้งหมดของชาวภูเขา มันเข้าไปพัวพันอยู่ในความเพ้อฝัน ศาสนา ตำนาน เล่ห์ลวง และการค้า คนที่เคยเห็นมันเป็นบุคคลที่เชื่อถือได้ มูลของมันถูกนำมาวิเคราะห์ รอยเท้าถูกบันทึกภาพไว้และทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง มันถูกจัดให้เป็นตำนานโดยบันทึกภาพไว้และทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง มันถูกจัดให้เป็นตำนานโดยนักบุกเบิกในปลายยุค 1950 และ 1960 แต่ตอนนี้หลักฐานกากรดำรงอยู่ของมันดูเหมือนจะหนักแน่นขึ้นทุกวัน
นอกจากนั้นมันยังเป็นอสูรกายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเทือกเขาหิมาลัย เป็นตำนานในหมู่ของชาวเนปาล โดยเฉพาะชาวเชอร์ปาผู้ที่อาศัยอยู่บนภูเขาสูง ณ วัดแห่งหนึ่งในร่มเงาของเทือกเขา เอเวอร์เรส ท่านเจ้าอาวาสบอกว่ามักจะมีฝูงเยติมาเยือนทางวันอยู่เสมอในแต่ละปี
แต่ถ้าใครจะไปคงต้องรอหน่อยล่ะเพราะตอนนี้ประเทศเนปาลเป็นประเทศปิดแล้ว เพราะการยึดอำนาจของกษัตริย์ คงรออีกนานแหละกว่าจะเปิดประเทศ

วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2558

รู้ไว้ก่อนไป เดินป่าหน้าฝน

ฤดูฝนของประเทศไทยอยู่ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงปลายเดือนตุลาคม ใกล้จะเข้าเดือนห้า หวังว่าฝนจะมาให้หายร้อนจริงๆ นะ การเดินป่าในช่วงหน้าฝนจะไม่ค่อยเหนื่อยง่ายเพราะอากาศไม่ร้อนจัด แต่สิ่งที่ต้องพึงระวังก็ควร รู้ไว้ก่อนไป เดินป่าหน้าฝน

โดยเฉพาะในป่าดงดิบชื้นนั้นจะมี “ทาก” ชูคอสลอน คอยดูดเลือดเหยื่อ แต่ทั้งหมดนั้นอาจเปรียบได้กับสีสันชีวิตการท่องไพร ที่ต้องมีการฝ่าฟันความยากลำบากไปให้ได้เพื่อประสบการณ์ชีวิตอันยิ่งใหญ่ ถ้าจะท่องป่าหน้าฝนให้สนุกก็ต้องเตรียมพร้อมให้ดีตามคำแนะนำดังต่อไปนี้

ภาพจาก www.tomwilson.com

1. กันเปียก
ควรพกฟลายชีท (ผ้าขึงเป็นหลังคากันน้ำฝน) ไปด้วยเสมอ จะช่วยให้เต็นท์ไม่ต้องเปียกปอน ควรมีเสื้อกันฝนที่มีน้ำหนักเบาติดไปด้วย อาจใช้ประโยชน์เป็นฟลายชีทได้ด้วยในยามจำเป็น เสื้อผ้าข้าวของบางอย่างควรใส่ถุงพลาสติกไว้ชั้นหนึ่งก่อนบรรจุลงเป้ สำหรับรองเท้านั้นถ้าหาชนิดที่กันน้ำได้ก็จะดีมาก โดยวัสดุที่เรียกว่า กอร์เท็กซ์ (Gore-Tex) นั้นกันน้ำได้ 100 เปอร์เซ็นต์ จะช่วยให้เท้าไม่อับชื้น เดินป่าได้อย่างสบายใจ

2. แห้งเร็ว
ควรเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย เมื่อเปียกแล้วต้องแห้งเร็ว เช่น ผ้าใยสังเคราะห์ต่างๆ ส่วนพวกผ้าฝ้ายไม่ควรใช้อย่างยิ่งเพราะอมน้ำมากและแห้งช้า

3. เลือกทำเล
การกางเต็นท์กลางป่าควรดูทิศทางและทำเลที่จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ตนเอง เช่น ไม่กางเต็นท์บริเวณที่อาจเป็นทางน้ำไหล ไม่กางเต็นท์ใต้ต้นไม้ใหญ่เพราะอาจมีกิ่งไม้หักหล่นใส่ นอกจากนี้ก็ควรกางฟลายชีทและขุดร่องระบายน้ำรอบตัวเต็นท์ไว้ด้วย

4. ระวัง
ในฤดูฝนสัตว์ป่ามีพิษต่างๆ เช่น แมงป่อง ตะขาบ งู ฯลฯ มักจะคลานไปมาหาที่แห้งๆ ตามในเต็นท์ ในถุงนอน หรือในรองเท้าที่ไม่ได้เก็บไว้อย่างมิดชิดพอ ก่อนสวมใส่ใช้งานควรตรวจตราสิ่งเหล่านี้ให้ดี ถ้ามียากันแมลงหรือปูนขาวให้โรยไว้รอบเต็นท์ ก็อาจกันแมลงพวกนี้ได้

เมื่อท่องเที่ยวกันอย่างสนุกสนานและได้รับความรู้แล้ว ก็อย่าลืมรักษาธรรมชาติไว้ให้สวยงามดังเดิม เหมือนก่อนที่เราเข้าไปสัมผัสด้วยจะเป็นการดีไม่น้อยเลย

มาเที่ยวป่าหน้าฝนต้องมีสติ
หน้าฝนมาเยือน อันตรายก็แฝงกายมาเยี่ยมได้หากไม่ระวัง สติคือสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องมีไว้กับตัวเสมอ จะเล่นน้ำตกก็อย่าโลดโผนนัก ไปไหนก็ควรไปเป้นกลุ่ม หากจะเดินป่าก็ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบด้วย เพราะการหลงป่าหรือประสบอุบัติเหตุ เช่น ลื่นหกล้มหรือได้รับอันตรายจากสัตว์ป่า รวมถึงสายน้ำป่าที่ไม่รู้จะมาเมื่อใดอาจเกิดขึ้นได้เสมอ

ที่มา : สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
และ Travel.mthai.com

แนะนำวิธีเตรียมตัวให้พร้อม เดินทางท่องเที่ยวให้สนุก

เรื่องการโน้มดอกซากุระลงมาถ่ายรูปคู่กับหน้าตัวเองของดาราไทย ทำให้คนไทยส่วนใหญ่เริ่มตื่นตัวกับเรื่องของมารยาทในการท่องเที่ยวมากขึ้น ดังนั้นก่อนไปเที่ยวไหน นักเดินทางมือใหม่ควรศึกษาและเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อให้เที่ยวอย่างมีความสุขและสนุกสนาน จะมีอะไรบ้าง ลองอ่าน
 

ภาพจาก https://www.flickr.com/photos/mamun/5623744892/


ความสนุกสนานในการเดินทางนั้นเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น

- หาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ ไว้ล่วงหน้า

- เมื่อเดินทางไปกับกรุ๊ปทัวร์  ควรระวังเรื่องเวลานัดหมายที่จุดนัดพบ  ตกลงกันให้เรียบร้อยว่าจะเน้นชมอะไร  เพราะจุดมุ่งหมายและนิยามของคำว่า “พักผ่อน” นั้นอาจแตกต่างกัน

- ศึกษาวัฒนธรรมท้องถิ่นและให้ความเคารพสถานที่  หัดพูดคำง่ายๆในภาษาท้องถิ่นบ้าง  เพื่อจะได้ทักทาย  สั่งอาหาร  หรือขอความช่วยเหลือยามจำเป็น

- อย่าเก็บของมีค่า  เงินสด  รวมถึงเอกสารสำคัญไว้ที่เดียวกันหมด  ควรแยกเก็บไว้กระเป๋าอื่นบ้าง  และควรเก็บของมีค่าไว้ในกระเป๋าที่อยู่กับตัวเท่านั้น

- เมื่อไปเที่ยวกันหลายคนด้วยรถยนต์ส่วนตัว ควรตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายให้เรียบร้อย เช่น ใครจะออกค่าน้ำมัน  ค่าผ่านทาง  ค่าที่พัก  หรือถ้าจะลงขันกันก็ควรตกลงกันว่าจะให้ใครเป็นคนถือเงิน

- อย่าอายที่จะถามทางถ้าตัวเองหลงทาง  และอย่าลืมพกแผนที่ติดตัวไว้ด้วย

- เตรียมเสบียงเผื่อไว้  ในกรณีเดินทางไปยังที่ที่มีแต่อาหารท้องถิ่นที่เราไม่คุ้นเคย

- รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา  พยายามให้อภัยหากเกิดปัญหาเพราะเหตุสุดวิสัย จะได้ไม่บั่นทอนความสนุกในการเดินทาง

- มีมารยาทและวินัย  เมื่อต้องเดินทางเป็นหมู่คณะ  การเดินทางจะได้ราบรื่นขึ้น

- อย่าลืมนำยาสามัญประจำบ้าน หรือยาประจำตัว  ครีมกันแดด  แว่นตากันแดด  และร่มติดไปด้วย

- เมื่อเดินทางไปต่างประเทศ  ควรสอบถามกับสถานทูตหรือสถานกงสุลล่วงหน้า ว่าอะไรเป็นของต้องห้ามที่ห้ามนำเข้าประเทศบ้าง  เพราะบางประเทศอาจมีบทลงโทษที่รุนแรง

- อย่านำสิ่งของไม่สมควรติดตัวขึ้นเครื่องบิน  เช่น  กรรไกร  มีด  หรือของที่ต้องสงสัยว่าจะใช้เป็นอาวุธได้

- อย่าใช้เงินเพลินจนเกลี้ยงกระเป๋า  ควรสำรองไว้เผื่อต้องจ่ายค่าภาษีสนามบินด้วย (ในกรณีที่ต้องจ่ายต่างหาก ณ สนามบิน) หรือในกรณีเครื่องดีเลย์  อาจต้องอยู่สนามบินนานขึ้น  หรือต้องค้างคืน

เทคนิคการเลือกซื้อกระเป๋าเดินทาง ล้อลาก (Luggage)

เทรนด์การเดินทางท่องเที่ยว ไปต่างประเทศในบ้านเรากำลังได้รับความนิยมสุดๆ อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง สิงคโปร์ จีน มาเก๊า เป็นต้น และสิ่งหนึ่งที่นักเดินทางมือใหม่มองหา นั่นก็คือ กระเป๋าเดินทาง นั่นเอง วันนี้เรามีเคล็ดไม่ลับ การลือกซื้อกระเป๋าเดินทางเบื้องต้นมาฝาก ซึ่งในครั้งนี้เน้นไปที่ กระเป๋าเดินทางล้อลากนะคะ

เทคนิคการเลือกซื้อกระเป๋าเดินทาง ล้อลาก (Luggage)
ภาพจาก www.bibelib.com

1. ล้อ
ล้อที่ดีที่สุดควรเป็นล้อยางทั้งลูก ชนิดที่มีตลับลูกปืน ตัวล้อควรฝังอยู่ภายในกระเป๋าเดินทาง โดยเฉพาะกระเป๋าเดินทางที่ไว้ใต้ท้องเครื่องบิน เพราะจะป้องกันการเสียของล้อได้ แนะนำให้มองหากระเป๋าเดินทางล้อลาก แบบ 4 ล้อ ไว้ก่อน เพราะจะช่วยผ่อนแรงงานเวลาเคลื่อนย้ายได้เยอะเลย (ราคาแบบ 4 ล้อ ก็แน่นอนว่าแพงกว่า 2 ล้อค่ะ)

2. กระเป๋าเดินทางใหญ่ก็ไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไป
คนทั่วไปจะบรรจุสิ่งของลงในกระเป๋าขนาด 26 นิ้วได้พอดี ดังนั้นก็ไม่ควรใช้กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่กว่านี้ โดยเฉพาะถ้าคุณมีปัญหาเรื่องการยกของหนัก เช่น ปวดหลัง หรือปวดแขน

3. อย่าไปยึดติดกับยี่ห้อ
คนทั่วไปจะคุ้นเคยกับชื่อ Samsonite และ American Tourister เพราะเป็นเจ้าแรกๆ ที่ขายมานาน แต่ก็ยังมีหลายยี่ห้อที่คุณภาพก็ใช้ได้ เช่น Travelpro Eminent Echolac Delsey หรือแม้แต่ Blue light, Valentino, Miracle, Dandy ลองเลือกการใช้งานต่างๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ ดีกว่าที่จะเน้นหนักไปที่ยี่ห้อนะคะ

* กระเป๋าเดินทาง ทุกยี่ห้อ จะรับประกันก็ต่อเมื่อ มีความเสียหายที่เกิดจากการผลิตเท่านั้น เช่น ซิปผิดปกติ รอยเย็บเบี้ยว หูลากหลุด หรือน็อตหลุด การรับประกันส่วนใหญ่จะเป็นของผู้ผลิต ไม่ใช่เป็นของร้านที่ขาย ดังนั้นไม่ควรไปเชื่อกับการรับประกันของร้านมากนัก เวลาเลือกซื้อควรตรวจตรา ดูองค์ประกอบต่างๆ ให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสิ้นใจซื้อเสมอ

5. การซื้อ กระเป๋าเดินทาง เป็นการลงทุนไม่ใช่ความสิ้นเปลือง
การคุ้มค่าในการลงทุนซื้อกระเป๋าเดินทาง ขึ้นอยู่กับอายุของการใช้งานของ กระเป๋าเดินทาง ถ้าคุณจ่ายเงินสองเท่าเพื่อซื้อกระเป๋าเดินทางที่มีอายุใช้งานนานขึ้น 4 ปี ก็ถือว่าคุ้มค่า แต่อย่าลืมค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมด้วยนะจ้ะ

6. ไม่ต้องกังวลว่ากระเป๋าเดินทางใบใหญ่กว่าจะหนักมากกว่า
สิ่งของที่คุณจะบรรจุลงในกระเป๋าเดินทางอาจมีน้ำหนักประมาณ 20-30 กก. แต่น้ำหนักกระเป๋าเดินทางที่ใหญ่เล็กต่างกัน 4-6 นิ้ว อาจมีน้ำหนักต่างกันเพียงครึ่งกิโลเท่านั้น และคุณจะรู้ว่า ถ้ากระเป๋าเดินทางไม่พอคุณต้องซื้ออีกใบที่ น้ำหนักอย่างต่ำก็ ประมาณ 3-4 กก. ซึ่งทำให้สิ้นเปลืองเพิ่มขึ้นอีก มองดูแล้วมันไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย

7. หูหิ้ว
หูหิ้วแบบยืดหด ควรติดตั้งและยึดเกาะกับกระเป๋าได้เป็นอย่างดี ถ้าเป็นแบบพับ ก็ต้องแนบติดกับตัวกระเป๋าเดินทาง เพื่อป้องกันความเสียหายของเสาคันชัก เวลาเราชักเข้าชักออก

8. Denier (หน่วยวัดความแข็งแรงของผ้า)

Denier เป็นหน่วยของการวัดขนาดเส้นใยที่ใช้ในการทอผ้า dinier ยิ่งมากจะทำให้ผ้าหนักยิ่งขึ้น สำหรับวัสดุที่นำมาทอเป็นผ้าก็ให้ความแข็งแรงแตกต่างกันด้วย เช่น โพลีเอสเตอร์ (Polyester) 1800 denier แข็งแรงกว่า Polyester 1200 denier แต่แข็งแรงน้อยกว่า Ballistic nylon 1050 denier โดยทั่วไป ตามสายการบินจะไม่ยอมรับความเสียหายกับกระเป๋าเดินทางที่ทำด้วยผ้า 600-700 denier

9. ซื้อกระเป๋าเดินทางกับร้านที่มีความรู้ด้านกระเป๋าจริงๆ
เพราะกระเป๋าเดินทางเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่มีหน้าที่แค่บรรจุสัมภาระเท่านั้น อย่าไปกลัวที่จะถามคนขาย เกี่ยวกับความทนทาน หน้าที่การทำงานต่างๆ การบริการหลังการขาย

ที่มาข้อมูล จาก @Watergate pavilion # ร้านเลิศศิริ

* สำหรับทริปสั้นๆ เช่น 5-7 วันที่ไปเที่ยวด้วยตัวเอง แนะนำกระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้ว ที่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ ด้วยน้ำหนักไม่เกิน 7 ก.ก. (แต่ขากลับควรจะโหลดลงใต้ท้องเครื่อง เพราะน้ำหนักน่าจะเกินจากการช๊อปปิ้งค่ะ)

แต่ทั้งนี้หากสาวๆ ที่ไปกับทัวร์ ไม่ห่วงเรื่องการขนย้าย การเดินทางต่างๆ ก็เลือกกระเป๋าขนาด 24 นิ้วก็สะดวกดีค่ะ ใส่ของไปได้ทุกอย่างไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดเหลือ

10 เรื่องจริง (แปลก) ที่คุณอาจจะยังไม่รู้ เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น

รวมเรื่องแปลกๆ ของประเทศญี่ปุ่น ที่เมื่อได้อ่านแล้วอาจจะทำให้เรารู้สึกอึ้งในความมีวินัย ปฎิบัติตามกฏ และมีระเบียบสุดๆ ของพวกเค้า รวมถึงเรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ ลองอ่าน

ภาพจาก www.knitsbysachi.com

1. ลืมของไว้ที่ไหน ได้คืนแน่นอน
ถ้าลืมของไว้ที่ร้านอาหาร หรือข้างทาง ไม่ต้องกลัวว่าจะหาย สองวันผ่านไปมันจะยังคงอยู่ที่เดิม (หรือทางร้านจะเก็บไว้ให้) เพราะฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจ ถ้าไปญี่ปุ่นแล้วเห็นมีหมวก ผ้าพันคอ กระเป๋า แขวนตามต้นไม้ เพราะคนที่เก็บได้เขาจะนำมาแขวนไว้ใกล้ๆ กับที่มีคนทำตกเพื่อให้เจ้าของกลับมาตามหาเจอ

2.เวลาจะข้ามถนน จะข้ามเฉพาะทางม้าลายเท่านั้น
ที่ญี่ปุ่น ไม่ว่าจะถนนจะโล่งแค่ไหน หรือจะเป็นตอนดึกที่ถนนว่างไม่มีรถซักคันแค่ไหน คนญี่ปุ่นจะไม่ข้ามถนนเลย แต่จะเดินไปจนเจอทางม้าลาย และรอไฟเขียวให้คนข้ามถึงจะข้ามไปต่อได้ (เป็นระเบียบสุดยอด)

3. การบริการลูกค้า ก็ดีเยี่ยม
การให้บริการลูกค้าในญี่ปุ่นเน้นเรื่อง Service Mind เป็นอย่างมาก หากไปญี่ปุ่นแล้วมีโอกาสไปห้างสรรพสินค้า หรือตามร้านต่างๆ ก็จะได้รับการบริการเหมือนเป็นพระเจ้าเลยล่ะ หลังจากซื้อของเสร็จ พนักงานจะคอยยืนส่งลูกค้าไปจนลับสายตา เพราะถือว่าหากลูกค้ามองกลับมาแล้วไม่เจอพนักงาน จะถือว่าเสียมารยาทนะจ๊ะ

3. ฆ่าตัวตายด้วยรถไฟฟ้า เจอค่าปรับหนักแน่นอนจ๊ะ
อย่างที่เรารู้กันอยู่ว่า คนญี่ปุ่นมีอัตราการฆ่าตัวตายต่อปี่อนข้างที่จะสูง หนึ่งในวิธียอดนิยมในการฆ่าตัวตายคือ การกระโดดให้รถไฟทับตาย แต่รู้มั้ยว่าถ้าหากกระโดดให้รถไฟทับตาย พ่อแม่ญาติพี่น้องจะต้องเสียค่าปรับเป็นจำนวนที่แพงมหาศาล เพราะถือว่าทำความเดือดร้อนให้กับบริษัทรถไฟที่ต้องหยุดวิ่ง เพื่อทำความสะอาดราง และรถไฟ และยังต้องสูญเสียรายได้

4. ฟังเพลงจากหูฟัง ขณะขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ หรือจักรยาน โดนปรับแน่

ห้ามฟังเพลงจากหูฟัง ในขณะที่ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ หรือจักรยาน เพราะทำให้สมรรถภาพการขับขี่ลดลง ถ้าตำรวจพบ จะถูกปรับ

5. ห้ามซ้อนจักนยาน ถึงมีเบาะให้นั่งก็ตาม

รวมถึงการซ้อนจักรยาน ถึงจักรยานจะมีเบาะให้ซ้อน ก็ห้ามซ้อน เพราะตำรวจอาจเรียกได้ เบาะซ้อนมีไว้วางของ ยกเว้นเด็กเล็กที่ซ้อนได้ แต่ต้องนั่งเบาะพิเศษของเด็ก

6.ก่อนทิ้งกล่องนม ต้องล้างก่อนทุกครั้ง

เวลาทิ้งขยะที่เป็นขวดกล่องน้ำ หรือนม จะต้องล้างขวด หรือกล่องนั้นให้สะอาดก่อนแล้วค่อยทิ้ง เพราะหากทิ้งลงไปทั้งอย่างนั้น ของข้างในอาจบูดเน่าและส่งกลิ่นเหม็น

9. ที่นู้นเค้าไม่มีเลข 4 กันนะ

ห้องพักตามอพาร์ทเมนท์ คอนโด และโรงพยาบาลที่ญี่ปุ่น จะไม่มีห้องหมายเลข 4 เพราะถือว่าเป็นตัวเลขอัปมงคล เพราะอ่านออกเสียงพ้องกับคำที่แปลว่า "ตาย"

10. แท็กติดตัวคนท้อง ง่ายต่อการสังเกต
คนท้องจะมีแท็กจากโรงพยาบาลให้พกติดตัวไว้ตลอดเวลาทุกครั้งที่ออกจากบ้าน เพื่อที่คนอื่นจะได้รู้ว่าคนนี้ท้อง และจะได้บริการให้เป็นพิเศษ เช่น ลุกให้นั่งบนรถไฟใต้ดิน เป็นต้น

ก็ไม่แน่ใจนักว่า ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริงไหม เพราะได้อ่านจากอีเมล์ของเพื่อนที่ส่งมาให้อีกต่อหนึ่งค่ะ ถ้าหากใครรู้จริง ก็แจ้งกันมาได้เลยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ ^^

แนะนำ 5 สถานที่ท่องเที่ยว ทริปวันหยุดยาว

หยุดยาวอีกแล้ววว... วันหยุดยาวๆ แบบนี้ จะมีอะไรดีไปกว่าการไปเที่ยวให้หายเครียด และจะยิ่งดีกว่านี้อีก ถ้าการเที่ยวครั้งนี้เป็นการช่วยชาติไทยของเราด้วย


ภาพจาก Travel.mthai.com

1. ไหว้พระนั่งเรื่อ เที่ยวเกาะเกร็ด

เกาะเกร็ด เป็นหมู่บ้าน OTOP ต้นแบบภาคกลาง (Knowledge-based Village Cluster) เป็นแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น และเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ในด้านการผลิตสินค้าหัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผาที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวไทยมอญที่ได้สืบทอดกันมายาวนาน และการทำขนมมงคล

2. ตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา
หากเพื่อนคนไหนงบน้อย หรือไม่อยากไปเที่ยวไหนไกลๆ แนะนำให้ขับรถไปเที่ยวเมืองพัทยากันดีกว่าค่ะ ลองมาดูแพลนเที่ยว พัทยากัน ถ้ามาถึงพัทยาแล้ว จุดท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ ตลาดน้ำ 4 ภาค ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท

3.เพลินวาน หัวหิน
เพลินวานคือ... “ศูนย์รวมความสุข สถานที่... หยุดเวลาในอดีตไว้ เพื่อเล่าขานเรื่องราวมากมายของวิถีหัวหินกาลก่อน ...สู่กาลปัจจุบัน” เยี่ยมชม "เพลินวาน" หมู่บ้านย้อนยุคมีชีวิต ชิมรสอาหาร-ขนมอร่อย เลือกซื้อเสื้อผ้า ดูหนังกลางแปลง สัมผัสบรรยากาศแห่งอดีต

 4.สามพันโบก แกรนด์แคนยอนเมืองสยาม
แก่งสามพันโบก เริ่มเป็นที่รู้จักและปรากฎสู่สายตานักท่องเที่ยว เมื่อโฆษณาของ ท.ท.ท. ชุด พี่เบิรด เริ่มออกฉายภาพ สถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นฉากจบของโฆษณาชุดนี้จึงกลายเป็นคำถามว่า ที่ไหนกัน เมืองไทยมีที่แห่งนี้ด้วยเหรอนับแต่นั้นมา แก่งสามพันโบก จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ที่กำลังเ็้นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง

5. เดินป่า เล่นน้ำตก ส่องสัตว์ ที่เขาใหญ่
ช่วงหน้าฝน น้ำตกกำลังมีน้ำ ป่ากำลังเขียวสดใส ก็เลยอยากขอแนะนำไปเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ดูน้ำตกที่เขาใหญ่ นอกจากบรรยากาศจะดีแล้ว การเดินทางจาก กทม.ยังสะดวก ไม่ไกลเกินไป แถมยังมีค่าใช้จ่ายที่ไม่แพงอีกด้วย