นักเดินทางรุ่นเก๋าหลายคนคงเคยนึกเปรียบเทียบรูปแบบการท่องเที่ยวสมัยก่อนและสมัยนี้ว่า ในทศวรรษนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการเดินทางมากมาย ซึ่งช่วยให้การเตรียมตัวและวางแผนการเดินทางง่ายขึ้น เช่นสมาร์ทโฟนและอินเตอร์เน็ต แน่นอนว่า เมื่อมีสิ่งใหม่ๆ เข้ามาก็จะทำให้หลายสิ่งที่เราคุ้นชินค่อยๆ หายไป เช่น โปสการ์ด
ก่อนหน้านี้เมื่อไปเที่ยวที่ไหน หลายคนมักชอบส่งโปสการ์ดกลับมาหาตัวเองหรือส่งไปให้เพื่อนฝูง แต่เมื่อทุกคนใช้สมาร์ทโฟน พวกเขาก็จะเลือกส่งข้อความ โพสต์รูป วิดีโอในเฟซบุค ทวิตเตอร์และไลน์มากกว่าเพราะสะดวกและรวดเร็ว สื่อในสหรัฐเคยรายงานว่า จำนวนโปสการ์ดที่ส่งในสหรัฐน้อยลงเรื่อยๆ
อุปกรณ์ประกอบการท่องเที่ยวที่กำลังหายไปอีกอย่างคือ ไกค์บุค เพราะเดี๋ยวนี้ นักท่องเที่ยวสามารถหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตในสมาร์ทโฟนได้มากมาย ยังรวมถึงโพสต์และข้อแนะนำต่างๆ ของคนที่เคยไปที่ๆ เราต้องการไป ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราตัดสินใจได้เป็นอย่างดี แต่บางคนก็อาจจะเถียงว่า การเดินเปิดไกค์บุคไปในที่ต่างๆ จะทำให้ได้อรรถรสในการเดินทางอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ถ้าเราทำไกค์บุคหายหรือตกในระหว่างเดินทางก็คงไม่เสียดายเท่าทำสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตหาย
อีกอย่างที่กำลังหายไปคือ อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ เราๆ ท่าน คงจำกันได้ดีว่า เวลาไปเที่ยวที่ไหน ไม่ว่าในหรือต่างประเทศ พวกเราใช้เวลาหลังจากท่องเที่ยวที่นี่เพื่อส่งอีเมลล์พร้อมแนบรูปส่งไปให้ที่บ้านและเพื่อนฝูง ก่อนหน้านี้ใครไปไหนแล้วส่งอีเมลล์กลับหาที่บ้านก็ดูโก้เก๋ อินเทรนด์มากแล้ว แต่ในสมัยนี้ แต่ละสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรมและที่พักเกือบจะทุกแห่งมีบริการ wifi ให้ผู้เข้าพักและนักท่องเที่ยวอย่างไม่อั้น ว่ากันว่า wifi ในไทยและเวียดนามหาง่ายเหมือนร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทาง พวกเราเองก็มีอุปกรณ์พร้อม ไม่ว่าโทรศัพท์ แล็ปท็อป แท็บเล็ตหลากหลายแบรนด์ ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาอินเตอร์เน็ตคาเฟ่อีกต่อไป ร้านพวกนี้ก็ต่างพากันทยอยปิดไปหลายประเทศเช่น โมรอคโค อินเดีย จีนและอังกฤษ
นักท่องเที่ยวหลายคนนิยมพกนาฬิกาปลุกไปท่องเที่ยวด้วย เพราะประเทศที่ไปอาจมีเวลาที่แตกต่างกันมากกับประเทศของตนเอง แต่เมื่อมีสมาร์ทโฟนและแอพพลิเคชั่นต่างๆ นาฬิกาปลุกก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป เพราะมันมีทั้งนาฬิกาปลุก นาฬิกาที่บอกเวลาในหลายๆ ประเทศพร้อมกัน และที่สำคัญนักท่องเที่ยวสามารถบันทึกแผนการแต่ละวันในสมาร์ทโฟนได้ด้วย แอพฯ บางตัวสามารถส่งเสียงเตือนได้อีกต่างหาก แต่พวกเราคงเคยมีประสบการณ์ว่า ตั้งนาฬิกาในโทรศัพท์ให้ปลุก แต่ก็ไม่ปลุกเพราะอาจจะตั้งวิธีผิดวิธีหรือตั้งเช้าเป็นบ่าย บ่ายเป็นเช้าก็ได้เหมือนกับตั้งนาฬิกาปลุกให้ปลุก แต่ไม่ปลุกเพราะถ่านหมด
การหายไปของแผนที่ก็เป็นผลมาจากอินเตอร์เน็ตเช่นเดียวกัน ก่อนหน้านี้เวลาไปที่ใดนักท่องเที่ยวก็จะตรงรี่ไปร้านหนังสือ หรือศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวก่อนเพื่อขอแผนที่แล้วจึงค่อยวางแผนจะไปที่ใด แต่ปัจจุบัน พวกเราวางแผนท่องเที่ยวอย่างละเอียดได้ก่อนหน้ามาถึงจากแผนที่ออนไลน์และจีพีเอส ผู้ผลิตแผนที่ฉบับกระดาษต่างพากันเปลี่ยนธุรกิจมาทำทางออนไลน์ เช่น ฝ่ายแผนที่และสำรวจของอังกฤษซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับการทำแผนที่รายงานว่า การขายแผนที่ลดลงประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะคนหันไปใช้แผนที่ออนไลน์และจีพีเอสแทน ตอนนี้คงไม่ค่อยได้เห็นภาพนักท่องเที่ยวเดินถือแผนที่ชี้โบ๊ชี้เบ๊กันอีกแล้วแน่ๆ
ในยุคดิจิทัลนี้ เราคงเห็นร้านขายอัลบั้มรูปค่อยๆ หายไป เด็กๆ รุ่นใหม่อาจไม่รู้จักอัลบั้มรูปอีกต่อไปเพราะพวกเขามีทั้งเฟซบุค อินสตาแกรมและอัลบั้มรูปออนไลน์ที่สามารถเก็บรูปได้ไม่จำกัด นอกจากนี้ ตอนนี้นักท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องพกเงินไปมากๆ ซึ่งเสี่ยงกับการหายหรือโดนปล้น เพราะตอนนี้การทำธุรกรรมด้านการเงินสามารถติดต่อถึงกันได้ทั่วโลก พวกเขาสามารถใช้บัตรเครดิตหรือเบิกเงินจากตู้เอทีเอ็มในทุกที่ที่เดินทางไป
ที่มา Bangkokbiznews.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น