เทคนิคถ่ายเซลฟี่ให้ดูดี
1. ฝึกมุมถ่ายรูป
เป็นขั้นตอนแรกของการถ่ายรูปเซลฟี่สวย โดยคุณจะต้องหามุมของตนเองให้เจอ เนื่องจากเค้าโครงหน้าของแต่ละคนจะให้มุมที่ดูดีที่สุดไม่เหมือนกัน เช่น บางคนต้องถ่ายหน้าเฉียงซ้าย หรือเอียงขวา ลองซ้อมมือด้วยการถ่ายเล่นซ้ำหลายๆ ครั้งหลายๆ มุม และอาจใช้มือเป็นส่วนช่วยในการเพิ่มความน่าสนใจให้กับรูปภาพ เช่นการเท้าคาง ใช้มืออังใบหน้า หรือขยี้เส้นผมเล่นหูเล่นตาให้ดูทะเล้น แล้วให้เพื่อนฝูงหรือคนในครอบครัวช่วยกันดูว่ามุมไหนของคุณดูดีที่สุดก่อนลงสนามจริง
โดยปกติแล้วการถ่ายภาพเซลฟี่จะดูดีกว่าเมื่อยกกล้องขึ้นสูงจากระดับสายตาเล็กน้อย และเอียงแขนออกมุมข้างอีกเล็กน้อย จะทำให้ใบหน้าดูมีมิติและมองเห็นคอ ไหล่ หรือลำตัวช่วงบนได้มากขึ้น หลีกเลี่ยงการจับกล้องให้เลนส์เงยขึ้น เพราะจะทำให้หน้าดูบาน และหลีกเลี่ยงการกดกล้องให้ต่ำเกิน เพราะจะทำให้ใบหน้าดูลีบจนผิดรูป
2. เลือกกล้องที่ใช่
จริงๆ แล้วการเซลฟี่ไม่ได้หยุดอยู่แค่กล้องหน้ามือถือเท่านั้น แต่กล้องหลังที่ชัดกว่าก็ทำได้ และกล้องดิจิตอลโดยเฉพาะก็ทำได้ ดังนั้นการจะนำกล้องอะไรมาใช้เซลฟี่ก็ขอให้ดูคุณสมบัติต่างๆ ที่เหมาะสม เช่น
ใช้เลนส์มุมกว้าง (Wide) เพื่อทำให้เก็บภาพได้กว้างขึ้น
มีความละเอียดที่เหมาะสม ปัจจุบันกล้องหน้าเซลฟี่สวยๆ จะอยู่ที่ 2 – 8 ล้านพิกเซล
มีคุณสมบัติในการโฟกัสใบหน้า เพื่อการถ่ายภาพให้คุณอย่างแม่นยำ
มีคุณสมบัติในการปรับภาพถ่ายให้เนียนสวย (ฟรุ้งฟริ้ง)
รองรับ Bluetooth หรือรีโมทเซลฟี่เพื่อความสะดวกในการถ่าย
ปัจจุบันมีกล้องดิจิตอลหลายยี่ห้อที่ชูคุณสมบัติเด่นด้านการเซลฟี่มาแข่งขันกับสมาร์ทโฟนที่สามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่นเช่น Camera 360 หรือ B612 แต่ถ้าเลือกกล้องดิจิตอลก็อย่าลืมเลือกกล้องที่มีหน้าจอด้านหน้า หรือสามารถพลิกหน้าจอให้คุณได้เล็งมุมได้ แล้วการเซลฟี่จะสนุกมากขึ้นแน่นอน (ถ้าไม่มี กระจกเงาเล็กๆ ช่วยได้)
3. แสงก็สำคัญ
มุมสวยยังไม่พอ แสงก็เป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ภาพเซลฟี่ของคุณ “เด่น” หรือ “ดับ” ได้ง่ายๆ โดยเฉพาะแสงไฟในเวลากลางคืน เพราะแสงที่ไม่เพียงพอจะทำให้เกิดเงามืดบริเวณใต้ดวงตาและโหนกแก้ม หรือการถ่ายภาพย้อนแสงก็จะทำให้ใบหน้ามืดกว่าฉากหลัง ดังนั้นถ้าอยากได้ภาพเซลฟี่แบบสวยถูกใจล่ะก็หันหน้าเข้าหาแสงไว้ก่อน
นอกจากแสงที่ให้ความสว่างแก่ใบหน้าของผู้ถ่ายแล้ว แสงยังมีประโยชน์ในเรื่องของความสวยบนดวงตาอีกด้วย หากคุณถ่ายเซลฟี่โดยมีแหล่งกำเนิดแสงเช่นหลอดไฟอยู่ด้านหลังกล้อง ทำมุมหักเหจากสายตาเล็กน้อย เวลาถ่ายภาพดวงตาของคุณก็จะมีประกายอย่างมีชีวิตชีวาขึ้นมาในทันใด หรือถ้ามีไฟวงแหวน ดวงตาของคุณก็จะมีวงแหวนเล็กๆ ในนัยตาดูมีเสน่ห์ไม่หยอกเช่นกัน
4. ไม้เซลฟี่ช่วยได้
ไม้เซลฟี่ คืออะไร? มันคืออุปกรณ์ยอดฮิตของที่ต้องมีติดตัวไว้เมื่อออกไปเที่ยว ยิ่งไปกันเป็นหมู่คณะแล้วอยากเซลฟี่กับสถานที่สวยๆ ล่ะก็ ลำพังแขนของคุณอาจยาวไม่พอต่อการเก็บภาพได้ทั่วทั้งหมด ไม้เซลฟี่จึงเข้ามาเป็นตัวช่วยสำคัญที่ยืดมุมกล้องออกไปได้ไกลขึ้น และไม้เซลฟี่ก็มีหลากหลายแบบและราคา ไม่ว่าจะเป็นไม้ถ่ายเซลฟี่ธรรมดาๆ ไปจนถึงไม้เซลฟี่ พร้อมรีโมท Bluetooth ที่สั่งลั่นชัตเตอร์ได้ และยังมีทั้งแบบหนีบง่ายๆ สำหรับการถือทั่วไป หรือแบบรัดกันหล่นที่ไม่ว่าจะผู้ถือไม้จะสั่นสะเทือนอย่างไรก็ไม่มีหลุด! เพียงเท่านี้ก็ได้ภาพเซลฟี่ในระยะที่ไกลขึ้น และเก็บเพื่อนๆ ได้ครบทุกคนอย่างง่ายดาย
วิธีการใช้ไม้เซลฟี่ก็ง่ายๆ แค่หนีบกล้องที่ปลายไม้ เชื่อมต่อรีโมทเซลฟี่กับกล้อง และดึงไม้เพื่อใช้ถ่ายภาพตามระยะที่ต้องการ แต่ที่สำคัญที่สุดสำหรับการใช้ไม้เซลฟี่นั้นคุณจะต้องคำนึงถึงการพับเก็บให้เล็กที่สุด เพื่อไม่ได้เป็นภาระในการพกพา และที่สำคัญกว่าคือในบางประเทศไม่อนุญาตให้ใช้ไม้เซลฟี่ที่มีรีโมทในตัวโดยไม่ได้จดทะเบียน (เพราะถือเป็นอุปกรณ์สื่อสารเหมือนโทรศัพท์มือถือ) ดังนั้นศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนนำไปใช้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง
5. ขาเซลฟี่ก็เก๋ไก๋
อุปกรณ์อีกชิ้นที่เหมาะกับคนที่ต้องการภาพที่คมชัดและตั้งใจสักหน่อย โดยขาตั้งกล้องเซลฟี่ (Mobile Tripod) ก็เหมือนกันขาตั้งกล้องตัวเล็กๆ ที่สามารถตั้งกล้องดิจิตอลหรือหนีบสมาร์ทโฟนได้ โดยทั่วไปจะมี 2 แบบคือขาตั้งตรงธรรมดาสำหรับวางบนโต๊ะหรือพื้นเรียบ กับขาที่บิดไปบิดมาได้สำหรับการวางกล้องบนพื้นผิวที่ไม่สม่ำเสมอ อย่างเนินหรือขอบกำแพง หรือใช้ขาพันเกาะกับวัตถุต่างๆ เช่นเสา และยิ่งไปกว่านั้นยังมีบางรุ่นที่ขาเป็นตัวดูดสุญญากาศให้เกาะบนผนังเพื่อสร้างมุมมองที่แปลกใหม่ในการถ่ายเซลฟี่ได้อีกด้วย
แต่การใช้ขาเซลฟี่นั้นจะค่อนข้างเสียเวลาในการจัดเตรียม มันจึงเหมาะกับการใช้ถ่ายภาพอย่างตั้งใจ เช่นการถ่ายภาพหมู่ หรือถ่ายภาพกับสถานที่หรือวัตถุที่หยุดนิ่งไม่ขยับเขยื้อน แต่ก็เป็นวิธีการที่จะได้ภาพเซลฟี่ที่ได้มุมมองกว้างขวางและคมชัดที่สุดที่ผู้รักการถ่ายภาพเซลฟี่ทุกคนต้องชอบอย่างแน่นอน
ที่มา http://www.skyscanner.co.th/news/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น